4 วิธีเลิกติดมือถือ (เห็นผลทันที!)
คุณเคยลองจินตนาการดูว่าถ้าไม่มีโซเชียลมีเดียหรือมือถือ คุณจะเป็นยังไง เชื่อว่าหลายๆ คนคงนึกภาพไม่ออกแน่ๆ เลยละครับ เพราะทุกวันนี้สื่อโซเชียลกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราไปแล้ว ทั้งสะดวกและรวดเร็วอยากจะอัพรูปไปเที่ยว ติดตามเพื่อนๆหรือแม้กระทั่งดูคลิปวิดีโอต่างๆ แต่คุณรู้รึเปล่าว่าการเสพติดโซเชียลมีเดีย สามารถทําให้คุณเสียสุขภาพจิตได้ด้วยนะครับ เพราะมันให้ทั้งคุณและโทษ เปรียบเสมือนดาบสองคม ดังนั้นเรามาดูกันว่าเหตุผลที่จะช่วยให้คุณเลิกติดโซเชียลมีเดียมีอะไรบ้างและมันมีข้อดียังไง
เหตุผลที่ว่าทําไมคุณต้องเลิกติดโซเชียลเพราะว่าในทุกๆ เช้าหลังจากตื่นนอน คุณมักจะจับมือถือก่อนเป็นอันดับแรก เปิดดู Facebook Twitter Youtube ไถหน้าฟีดจนเพลิน ลืมเวลาว่ามีสิ่งสําคัญที่ต้องทํา ซึ่งค่อนข้างที่จะเสียเวลามากๆหรือการนั่งเช็คข่าวสารอัปเดตของคนอื่นเห็นว่าเขาทํานู่น ทํานี่ ทํานั่น จนคุณอาจอิจฉาและรู้สึกทุกข์ใจกับตัวเองเมื่อเห็นคนอื่นมีชีวิตที่ดีกว่า แน่นอนว่าต้องแอบรู้สึกแบบนี้บ้างแหละครับ
แล้วทําไมคุณถึงไม่ควบคุมการเล่นโซเชียลมีเดียของคุณล่ะ เราต้องเข้าใจก่อนว่าผู้สร้างโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook Twitter หรือ Youtube และอื่นๆ ถูกออกแบบเพื่อให้เราใช้เวลาอยู่บนแพลตฟอร์มให้ได้นานมากที่สุด เพื่อสร้างรายได้ ยิงแอดต่างๆเพิ่มโอกาสการซื้อขายจากโฆษณาที่อยู่ในแพลตฟอร์มนั้นๆ มีหนังสือที่ชื่อว่า “The shallows” เขียนโดย Nicholas Carr ซึ่งหนังสือเล่ม ช่วยอธิบายถึงอินเทอร์เน็ตว่ามีผลยังไงกับความสามารถในการคิดและการเรียนรู้ของเรา ยังอธิบายเกี่ยวกับความยืดหยุ่นของสมองหรือ Nuroplasticity ของสมอง
โดยปกติเราจะเชื่อว่าสมองของเรานั้นเกิดมามีศักยภาพ สมองยังไงก็จะเป็นอย่างงั้นเหมือนเดิม แต่จริงๆ แล้วสมองของเราสามารถเพิ่มศักยภาพและพัฒนาได้ บ่อยครั้งที่คุณเช็คหรืออัปเดตรูป คุณจะสังเกตเห็นยอดไลก์ที่เพิ่ม มีคนคอมเมนต์เกี่ยวกับรูปของคุณ คุณอาจจะรู้สึกดีกับการได้เป็นที่สนใจของคนในโลกโซเชียล ซึ่งสมองได้หลั่ง สารโดพามีน มีหน้าที่ควบคุมอารมณ์และความรู้สึกช่วยในการรับรู้รวมไปถึงหากสมองของคุณหลั่งสารโดพามีนเพียงพอ ยังช่วยให้คุณกลายเป็นคนที่คิดในแง่บวก ดังนั้นเราจึงรู้สึกดีเมื่อเราได้รับความสนใจในโลกโซเชียลทําให้คุณยึดติดยอดไลก์หรือยอดวิวใน Youtube
มากไปกว่านั้นแพลตฟอร์มต่างๆ ยังถูกพัฒนาให้ศึกษาและติดตามพฤติกรรมของผู้ใช้งาน เช่น คุณกําลังดู Youtube เกี่ยวกับการทําอาหารคุณจะเห็นว่าแถบบาร์ด้านข้างของ Youtube ปรากฏคลิปเกี่ยวกับการทําอาหารต่างๆ จนทําให้คุณรู้สึกว่าต้องกดดูเรื่อยๆซึ่ง สิ่งที่คุณจะได้รับหากคุณพยายามเลิกพฤติกรรมติดนั่นก็คือ
ข้อที่หนึ่ง คุณจะมีเวลาทํากิจกรรมอื่นๆ มากขึ้น เช่น การอ่านหนังสือ ทําสมาธิ เขียนบทความ เป็นต้น กิจกรรมที่สร้างพัฒนาการเชิงลึกเพิ่มศักยภาพให้กับตัวเอง
ข้อที่สอง มีสติและวิจารณญาณมากขึ้น เพราะว่าในโลกโซเชียลมีเดียมีทั้งด้านดีและด้านมืด แม้กระทั่งข่าวซุบซิบนินทาคนนั้นคนนี้ข่าวไร้แก่นสารที่ต้องการปั่นกระแสให้ดัง คุณต้องรู้สึกเบื่อกับข่าวที่ไม่มีประโยชน์ ดังนั้นเลิกรับข่าวสารตามกระแสช่วยให้เรามีภูมิคุ้มกันและเพิ่มวิจารณญาณมากขึ้น
ข้อที่สาม หลุดออกจากความสัมพันธ์แบบปลอมๆ เพราะในโซเชียลอย่าง Facebook คุณอาจจะมีเพื่อนมากถึงห้าถึงหกร้อยคน บางคนอาจจะเป็นเพื่อนสมัยม.ต้น ป้าข้างบ้าน หรือ เพื่อนของเพื่อนอีกที ซึ่งคุณก็ไม่ได้รู้จักหรือสนิทสนมมากถึงขนาดนั้น เป็นเพื่อนใน Facebook พอเป็นพิธี เพียงเพราะอาจเคยเห็นหน้าค่าตากันก็เท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วเพื่อนจริงๆ หรือคนที่อยู่รอบข้างของคุณมีน้อยจนนับนิ้วได้ คุณอาจจะโพสท์รูปสวยๆ สักรูป แล้วป้าข้างบ้านก็คอมเมนต์อยากรู้อยากเห็นไปซะหมด หรือ เพื่อนที่ไม่ได้สนิทเข้ามากดว้าว ทําให้คุณต้องพยายามสร้างผลงานอัปเดตชีวิตให้ดูดี เพื่อได้รับความสนใจจากคนเหล่านั้น
ข้อที่สี่ คุณมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงมากขึ้นและสร้างความสุขได้ด้วยตัวเอง บ่อยครั้งที่เราเล่น Instagram คุณจะเห็นว่าเพื่อนๆ หรือกลุ่มคนที่คุณติดตาม จะอัพรูปไปเที่ยวทะเลบ้างรูปสวยๆ หุ่นดีบ้าง ซึ่งรูปเหล่านั้น จะบั่นทอนจิตใจของคุณทํ าให้คุณเกิดการเปรียบเทียบกับตัวเอง กลายเป็นว่าคุณไม่สามารถสร้างความสุขในแบบฉบับของคุณ เมื่อมองดูชีวิตของคนอื่นที่ดูดีกว่าเรา
แล้วต้องทํายังไงล่ะถึงจะควบคุมการเล่นโซเชียลเล่นของคุณได้
ฟังดูคุณอาจจะสงสัย ในเมื่อชีวิตประจําวันของเรายังจําเป็นต้องใช้โซเชียลอยู่เลยเพื่อติดต่อหรืออํานวยความสะดวกต่างๆ นาๆ ในชีวิตแต่ในที่นี้ผมไม่ได้หมายถึงให้คุณงดใช้โซเชียลไปเลยนะครับ ซึ่งคุณต้องพยายามใช้ประโยชน์อย่างจําเป็น ควบคุมจิตใจไม่ให้เผลอไปกดหน้าเช็คหน้าฟีดหรือสตอรี่ของคนอื่นๆ คุณอาจจะปิดการแจ้งเตือนจากหลายๆ แพลตฟอร์มที่ไม่จําเป็น เพื่อจะได้ไม่ต้องรับรู้ว่าใคร กําลังทําอะไร ที่ไหนอัพรูปอะไรหรือไลฟ์สดของใครกําลังออนแอร์อยู่
การลบแอปพลิเคชัน ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีเมื่อคุณไม่สามารถควบคุมนิ้วของตัวเองได้ คุณอาจจะโหลดมาแค่เฉพาะแอปพลิเคชันที่จําเป็นต่อการทํางานหรือไม่ก็ติดตามที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคุณ เพิ่มคุณค่าให้กับเรามากยิ่งขึ้นครับ ดังนั้นการเลิกติดโซเชียล มันอาจจะไม่ใช่เรื่องยากและมันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย สําหรับหลายๆ คน มันอยู่ที่ว่าคุณรักตัวเองมากแค่ไหนคุณยอมตกเป็นทาสความรู้สึกนั้นๆ ได้นานเท่าไหร่หากรับรู้ถึงตัวเองรักตัวเองการควบคุมพฤติกรรมการใช้โซเชียลก็ไม่ใช่เรื่องยากสําหรับคุณหรอกครับ