ทำไม “คนเงียบๆ” ถึงประสบความสำเร็จมากกว่า “คนขี้โม้”

ทําไมคนที่ไม่ขี้โม้ถึงประสบความสําเร็จมากกว่าคนที่ขี้อว ดชีวิตคนเราเป็นอะไรที่ช่างแสนวุ่นวายเต็มไปด้วยความเครียด ความท้าทายไม่ว่าจะเป็นทางกายภาพหรือทางจิตใจ คนที่ประสบความสําเร็จส่วนใหญ่มักจะมีพฤติกรรมที่เงียบ มากกว่าการโอ้อวด ดังนั้นเรามาดูกันว่าทําไมคนที่เงียบๆถึงประสบความสําเร็จมากกว่าคนที่ขี้โม้

1. พวกเขาคิดก่อนพูด

ความเงียบ คือช่วงเวลาของการใช้ความคิด สมมุติว่าเพื่อนร่วมงานของคุณขอความช่วยเหลือจากคุณ พวกเขาต้องการให้คุณขับรถไปทั่วเมืองและส่งเอกสารบางอย่างที่พวกเขาลืมส่ง เมื่อคุณเจอคําขอร้องนี้คุณอาจจะตอบรับไปโดยไม่ได้คิด กลายเป็นว่าคุณต้องทํางานให้คนอื่นและถูกกดดัน เพราะคุณตอบโดยไม่ได้คิด การนิ่งเงียบๆสัก 2-3 นาที เพื่อใช้เวลาทบทวน สามารถช่วยให้คุณจากสถานการณ์ที่ตึงเครียดเหล่านี้ได้ คุณอาจจะเช็คตารางงานเพื่อให้แน่ใจว่า หากตอบรับไปจะมีผลกระทบต่องานที่คุณมีอยู่แล้วหรือเปล่า การคิดก่อนพูดหรืออยู่เงียบๆสักพัก จะช่วยเรียงลําดับความสําคัญของงาน ถือว่าเป็นอีกเหตุผลหนึ่งของคนที่ประสบความสําเร็จ

การคิดทบทวนจะช่วยให้เพิ่มการไตร่ตรองที่ดียิ่งขึ้นหรือเพิ่มตัวเลือกในการตัดสินใจ หาข้อสรุปที่ดีที่สุดสําหรับตัวเอง แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่สามารถคิดวิเคราะห์ปัญหาได้เงียบๆ คุณอาจจะรู้สึกฝืนแทบคิดไม่ออก แต่เรื่องพวกนี้สามารถฝึกกันได้หัดคิดก่อนพูดช้าๆมากกว่าการตอบไปแบบพรวดพราดโดยที่เราไม่ได้ทันคิด

2. ความน่าเชื่อถือ

คุณเชื่อไหมว่าคนที่เงียบๆ ทําไมเขาถึงน่าเชื่อถือมากกว่าคนที่พูดมาก เพราะว่าเขาใช้เวลาในการคิดทบทวนข้อมูล เช็คความถูกต้องในทุกๆอย่างก่อนที่จะพูด ข้อสรุปใดๆหรือสิ่งที่ต้องใช้การตัดสินใจ ใช้ความคิดไตร่ตรองให้ได้มากที่สุด เมื่อตัดสินใจชัดเจนเด็ดขาดแล้ว จะสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของคนรอบข้าง พวกเขาจะเริ่มเคารพการตัดสินใจของคุณและเห็นคุณค่าในการเลือกด้วยเหตุผลนี้ ไม่ว่ายังไงก็ตาม คําพูดของพวกเขาจะมีน้ำหนักเอามากๆ ทําให้ลูกน้องหรือเพื่อนร่วมงาน ก็เชื่อมั่นในคําพูดของพวกเขา หากกลั่นกรองข้อมูล คิดก่อนพูดความน่าเชื่อถือจะตามมาใครๆก็เชื่อมั่นและกล้าลงทุนทําธุรกิจร่วมด้วย

3. พูดกระชับและชัดเจน

บ่อยครั้งที่เราเห็นคนขี้โม้ มักมีลักษณะพูดมาก หรือพูดไปเรื่อย หาหัวข้อหรือวัตถุประสงค์ได้ไม่ค่อยเจอ ด้วยเหตุนี้คนที่เงียบๆจากที่เขาต้องใช้สมองคิดก่อนพูดแล้ว พวกเขาจะไม่พูดพร่ําเพรื่อที่มีแต่น้ำ แต่พวกเขาจะพูดให้กระชับและชัดเจน รู้วัตถุประสงค์ของสิ่งที่จะพูดและนําเสนอให้กับผู้ฟังซึ่งจะง่ายต่อการทําข้อตกลงหรือการนําเสนองานคนพูดมากจะพูดแต่น้ำจนกว่าจะถึงแก่นหลักสําคัญของผู้ฟังเนี้ยอาจจะไม่ค่อยให้ความสนใจแล้วเช่นเซลล์ขายของของคุณเนี้ยอาจจะเห็นว่าวิธีการพูดของพวกเขามักจะเยอะบางทีเราอาจจะจับใจความแทบไม่ทันเลยดังนั้นการพูดกระชับและชัดเจนเป็นส่วนหนึ่งของคนที่ประสบความสําเร็จนั่นเองครับ

4. ปล่อยวางจิตใจให้สงบนิ่ง

พลังของความเงียบคือสิ่งที่เราหลายๆ คนควรให้ความสําคัญครับ ความเงียบจะทําให้จิตใจเราสงบปล่อยวางทุกอย่างทําให้เรามีสติมากยิ่งขึ้น บ่อยครั้งที่เราต้องเจอกับความวุ่นวายความเครียดและหลายๆสิ่งเร้า ที่ทําให้เราวิตกกังวล คุณอาจจะอยากอยู่กับตัวเองสักพัก นั่งทําสมาธิ ปล่อยวางจิตใจสักครู่ เพื่อตั้งหลัก สติปัญญาในการแก้ปัญหา ซึ่งเป็นวิธีของคนที่ประสบความสําเร็จ การปล่อยวางอดีตหรือปัญหาเล็กๆน้อยๆ จะช่วยให้เราสามารถเดินหน้าต่อไปได้ เพราะปัญหาหากเรานํามาใส่ใจมากเกินไป ตัวของคุณเองก็จะเป็นทุกข์ อย่าจมอยู่กับความเจ็บปวดเหล่านั้น ยังไงเราก็ต้องผ่านเรื่องนี้ไปได้และมันจะกลายเป็นอดีต หัดปล่อยวางซะบ้างนะครับ

5. ทําสมาธิเพิ่มการโฟกัส

บางทีความเงียบก็เป็นอีกวิธี ที่ช่วยให้เราผ่อนคลายจากสิ่งรบกวนรอบข้าง การทําสมาธิก็ช่วยให้เราผ่านปัญหานั้นๆไปได้อีกเช่นกัน เพราะการทําสมาธิช่วยให้เรามีสติปัญญามากยิ่งขึ้น เพิ่มศักยภาพการทํางานของระบบสมอง มีงานวิจัยจากวารสารประสาทวิทยาพบว่าคนที่นั่งสมาธิเป็นประจํามีข้อได้เปรียบทางสติปัญญามากกว่าคนที่ไม่เคยนั่งสมาธิเลย ช่วยให้สมองจดจ่อต่อสิ่งที่เป้าหมาย เพิ่มเสถียรภาพมากขึ้น ช่วยให้ไม่ฟุ้งซ่าน เพื่อขจัดสิ่งรบกวนจากสภาพแวดล้อมอันวุ่นวายของคุณและเรียนรู้ที่จะทําให้จิตใจจดจ่อมากยิ่งขึ้น

6. พูดกับตัวเอง

คุณเชื่อไหมว่าคนเงียบๆที่เขาประสบความสําเร็จ มีอีกวิธีหนึ่งที่ไม่ค่อยลับคือการพูดกับตัวเองเมื่ออยู่คนเดียว บางทีเราอาจจะต้องการตั้งสติทบทวนต่อสิ่งต่างๆ แม้ว่าจะเป็นปัญหา วิธีแก้ไขหรือสรุปเรื่องราวให้ตัวเองเข้าใจ เพราะการพูดกับตัวเอง ช่วยให้ย้ำกับสิ่งที่จะทําเพิ่มความมั่นใจ เชื่อมั่นในตัวเองและมีแรงผลักดัน คุณอาจจะแอบอยู่ที่มุมเงียบๆนั่งทบทวนและพูดกับตัวเองออกมา เช่น อาทิตย์หน้าฉันต้องพรีเซนต์แผนการตลาดประจําเดือนสิงหา ฉันทํามันให้ได้ หัวหน้าฉันจะต้องชอบมัน หากเราฝึกพูดกับตัวเองบ่อยๆก็จะช่วยให้คุณมีความมั่นใจ ย้ำคิดย้ำทําและมีสติในการทํางานยิ่งขึ้นครับ

และนี่ก็เป็น 6 เหตุผลว่าทําไมคนที่ไม่ขี้โม้ถึงประสบความสําเร็จมากกว่าคนที่อวดครับ จริงๆหลักเหตุผลสําคัญก็คือคนที่ไม่ขี้อวดไม่ค่อยพูด เพราะว่าเขาคิดก่อนจะพูดมากๆครับ การพูดหรือการลงมือทําอะไรสักอย่างก่อนที่คนเหล่านั้นจะทํา พวกเขาจะคิดและไตร่ตรองมันให้ดียิ่งขึ้น ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลว่าเราควรคิดมากๆก่อนที่จะพูดหรือลงมือทําอะไรลงไป