5 บทเรียนเรื่องเงิน ที่ควรรู้ก่อนอายุ 20

วัย 20 ปีขึ้นถือเป็นช่วงคาบเกี่ยวระหว่างวัยรุ่นสู่วัยผู้ใหญ่  เพราะเริ่มมีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเรียน เพิ่มทักษะต่าง ๆ และรวมไปถึงทำงาน แน่นอนว่าในทุก ๆ กิจกรรมที่เราทำนั้นล้วนมีเงินเข้ามาเป็นปัจจัยสำคัญในชีวิต เช่น ทำรายงาน เก็บออมเงินเพื่อสำรองจ่าย การแยกแยะระหว่างของที่จำเป็น เชื่อว่าในรั้วมหาลัยไม่มีหลักสูตร how to จัดสรรเงิน 

คุณกำลังสงสัยว่าแล้วทำไมเราจำเป็นต้องรู้เรื่องพวกนี้ละ ? เมื่อคุณอายุเพิ่มขึ้นเลยวัย 20 ต้น ๆ คุณอาจกลับมาเสียใจกับตัวเองอีกครั้งว่า “ฉันน่าจะรู้เรื่องนี้นะ” เพราะเรื่องการเงินหรือธุรกรรมต่าง ๆ บทเรียนที่ควรเรียนรู้เพื่อพร้อมสู่โลกกว้าง ล้วนแล้วต้องศึกษาและสร้างวินัยเพื่ออนาคตครับ มาดูกันว่า 5 บทเรียนที่คุณต้องรู้ก่อน 20 มีอะไร

  1. อย่าพยายามทำอะไรเดี่ยว ๆ 

จริง ๆ หลายคนคงไม่ชอบงานกลุ่มเพราะว่า หลายคนต่างความคิด อาจไม่ลงรอยกัน บางทีคนนั้นคนนี้กินแรงบ้างหรืองานอาจไม่เดินบ้าง คุณอาจจะสบายใจมากกว่ากับการทำงานคนเดียวเพราะคล่องตัวและไม่จำเป็นต้องไปเถียงกับใคร ในชีวิตรั้วมหาลัยคุณอาจสามารถหลีกเลี่ยงการทำงานกลุ่มหรือร่วมงานกับคนที่ไม่ชอบได้ แต่ในโลกแห่งการทำงานนั้น คุณอาจต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ เพราะว่าเราจำเป็นต้องอาศัยสกิลของเพื่อนร่วมงานหลาย ๆ คนเพื่อให้งานบรรลุเป้าหมาย การทำงานไม่ควรมีคำว่าพลาด เพราะหากพลาดพลั้งหลายครั้ง คุณอาจสูญเสียกำไรไปหลายร้อยเปอร์เซ็นและอาจถูกตำหนิจากหัวหน้า ส่งผลไปถึงการถูกไล่ออกได้ ซึ่งแตกต่างจากการเรียนในมหาวิทยาลัย คุณอาจทำงานกลุ่มหรือมีหัวข้อนี้ผิดไป แต่ยังสามารถกลับมาแก้ไขใหม่ได้ ดังนั้นเราควรเรียนการทำงานเป็นทีมครับ

  1. อย่าไร้เดียงสา

ความไร้เดียงสาเป็นสิ่งที่น่ารักเมื่ออยู่กับเด็ก แต่เมื่ออายุ 20 ปีคำว่าไร้เดียงสาจะไม่เพิ่มความน่าเอ็นดูให้กับคุณ เพราะในสังคมการทำงาน บางสิ่งบางอย่างคุณอาจไม่รู้หรือไม่ชิน คุณอาจจะทำตัวไร้เดียสา เพื่อเป็นข้ออ้างว่าคุณไม่ทราบในเรื่องนั้น ๆ แต่หารู้ไม่ว่ามันเป็นการลดความน่าเชื่อถือในตัวคุณ คุณสามารถศึกษาหรืออ่านรีวิวเพื่อให้ทราบเรื่องนั้น ๆ พอสังเคปได้ ซึ่งมันคงไม่ยากอะไรหากจะพิมพ์หรือค้นหาในกูเกิ้ลก่อนครับ อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าคุณจะพยายามทำงานอย่างขยันขันแข่งแค่ไหน หากผลลัพธ์ของงานไม่เป็นไปอย่างสวยงาม คุณก็ไม่ได้รับความเอ็นดูหรือเป็นคนที่อยู่แถวหน้าได้ครับ รวมไปถึงอย่าพยายามยึดติดเกรดการเรียนของคุณ ถึงแม้ว่าในวัยเรียนคุณจะอยู่ระดับแนวหน้าของห้อง แต่เมื่อหลุดพ้นจากรั้วมหาลัยสู่วงการทำงาน เกรดไม่ได้เป็นตัวชี้วัดเสมอไปครับ เพราะจริง ๆ แล้วเขาวัดกันที่กึ๋นและความสามารถ

  1. อย่าสร้างหนี้ เมื่อรู้ว่าตัวเองยังจัดการไม่ได้

หลายคนอาจคิดว่าถ้าไม่เป็นหนี้ก็ไม่ได้สิ่งที่ต้องการ แต่จริง ๆ แล้วนั้นผมกำลังหมายถึง 

หากจะสร้างหนี้เพื่อการลงทุนหรือเพื่อต่อยอดเรื่องต่าง ๆ มันควรจะอยู่ถูกที่และถูกเวลา 

เพราะหากคุณสร้างหนี้สินในช่วงอายุที่ตัวเองยังไม่พร้อม กลายเป็นว่าคุณรับมือไม่ไหวและอาจพังทลายในที่สุด เช่น คุณอาจพลาดทำแฟนสาวของตัวเองท้องในช่วงวัยที่ไม่พร้อม ซึ่งการมีลูกนั้นนำมาพร้อมภาระหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นค่าเลี้ยงดูลูก ค่าเทอม ค่าชุดนักเรียน ประกันชีวิตเผื่อเจ็บป่วยเป็นต้น การเลี้ยงคน ๆ หนึ่งให้เติบโตเป็นคนดีของสังคมนั้นไม่ใช่เรื่อง่าย 

ดังนั้นหากคุณไม่มีการวางแผนชีวิตตัวเองให้ดี คุณคงนึกภาพตัวเองไม่ออกเลยว่าจะเป็นอย่างไร

  1. หยุดใช้จ่ายกับสิ่งสิ้นเปลือง

ช่วงวัยจะอายุ 20 คุณอาจจะสนุกกับการเรียนและกลุ่มเพื่อน ไม่ว่าจะปาร์ตี้ แฮงเอ้าท์ ติดเหล้า ติดบุหรี่และรวมไปถึงการติดบ่อนพนัน เมื่อนับมูลค่ารวม ๆ ที่คุณใช้จ่ายไปแล้วก็หลายพันเลยทีเดียวครับ จริง ๆ แล้วอบายมุขเป็นสิ่งที่ไม่ดีอยู่แล้ว เมื่อคุณเริ่มเข้าเส้นทางสีดำและเสพติดมากเกินไป อาจทำให้คุณสูญเสียเงิน สุขภาพ และอนาคตไปเลยก็ว่าได้ ซึ่งใครหลาย ๆ คนที่เราเห็นตามข่าวก็หมดอนาคตไปกับสิ่งอบายมุข ดังนั้นหากคุณสามารถควบคุมตัวเองได้และไม่ใช้เงินไปกับสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อคุณเอง อนาคตอันสดใสก็อยู่ไม่ไกลครับ

  1. ไม่จำเป็นต้องใช้เงินเพื่อซื้อความสุข

คุณอาจจะอยากได้กระเป๋าแบรนด์เนม หรือกันดั้มตัวต่อที่ออกคอลเลคชั่นใหม่ ๆ รอคุณเป็นเจ้าของ ซึ่งมันใช้เงินจำนวนมากเพื่อให้ได้มันมา แต่มันก็เป็นเพียงแค่สิ่งของที่คุณผูกมัดยึด

เหนี่ยวทางจิตใจ ว่ามันคือความสุข   จริง ๆ แล้วหากคุณมีความพร้อมทางการเงินหรือไม่ได้มี

ผลกระทบการเงินใด ๆ เมื่อซื้อของเหล่านี้ ผมคิดว่ามันก็ไม่ผิดหรอกครับ หากเราจะซื้อเพื่อความสุขของตัวเอง แต่ในทางกลับกัน มองในมุมหนึ่ง ความสุขอาจอยู่รอบ ๆ ตัวเราโดยไม่จำเป็นต้องจ่ายเพื่อให้มีความสุข คุณอาจจะพาน้องหมาเดินเล่น เล่นกีฬาพบปะกับเพื่อน ๆ หรือความสุขจากการทำอาหาร กิจกรรมเหล่านี้ก็สามารถสร้างความสุขได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินเยอะเลยละครับ