5 สัญญาณที่บอกว่า คุณกำลังจะรวย

ในประเทศสหรัฐอเมริกามีผลชี้วัดว่าในปี 2019 –  2020 มีจำนวนมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้นกว่า 2 ล้านกว่าคนหรือมีฐานะที่ร่ำรวยมากขึ้นครับ ฟังดูน่าเหลือเชื่อเลยนะครับที่ระยะเวลาภายในหนึ่งปี จำนวนมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ แต่อย่างไรก็ตามจำนวนประชากรของสหรัฐอเมริกาก็มากหลายเท่าตัวเมื่อเทียบกับประเทศไทยเลยนะครับ ซึ่งจะอยู่ 300 กว่าล้านคน ปัจจุบันนี้เป็นยุคแห่งดิจิตัล เราสามารถทำงานหรือสร้างความสำเร็จได้เพียงแค่ใช้อินเตอร์เน็ตและความคิด ซึ่งต่างจากในอดีตที่ทุกอย่างอาจไม่ได้สะดวกเหมือนปัจจุบันนี้  

ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานะไหนในสังคม คุณก็สามารถประสบความสำเร็จและมีสิทธิ์ร่ำรวยได้ครับ หากคุณมีความพยายาม ความคิดริเริ่ม การพัฒนาตัวเอง ก็สามารถไปถึงฝั่งฝันได้เช่นกัน 

คุณกำลังสงสัยว่า ทำไมคนรวยเขาถึงรวยขึ้นทุก ๆ วันทั้งที่คุณก็พยายามทำเหมือนที่พวกเขาทำ 

สาเหตุหลัก ๆ และพื้นฐานที่สำคัญของการประสบความสำเร็จ คือความรู้ในการวางแผนทางการเงิน ถึงแม้ว่าคุณจะรวยล้นฟ้าขนาดไหน หากไม่มีการวางแผนการเงินที่ดี ก็มีสิทธิ์ตกกระป๋องได้เช่นกันครับ ซึ่งนั้นก็เป็นอีกหนึ่งในลักษณะที่ทำไมคนรวยถึงประสบความสำเร็จ 

แล้วคุณจะรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองกำลังมีสัญญาณเป็นว่าที่เจ้าสั่ว ? 

  1. กล้าได้กล้าเสี่ยง 

แน่นอนว่าการทำงานประจำเพียงอย่างเดียว อาจไม่ใช่เพียงแค่หนึ่งช่องทางสู่ความร่ำรวย คุณยังสามารถจัดสรรเงินเมื่อหักจากหนี้ที่ต้องจ่ายออก แล้วนำเงินส่วนที่เหลือมาลงทุน ไม่ว่าจะเป็นหุ้นหรือการลงทุนที่ทำกำไร passive income ให้กับคุณ แต่ต้องขอบอกก่อนเลยนะครับว่า 

การลงทุนย่อมมีความเสี่ยง เราต้องศึกษาให้ดีก่อนที่จะธุระกรรมการเงิน จริง ๆ แล้วการลงทุน-

เนี้ยะ ค่อนข้างเป็นดาบสองคมเพราะหากคุณมีความโลภ ก็อาจนำไปสู่หายนะ 

จึงจำเป็นต้องมีวินัยในการลงทุนและรู้ลิมิตในการลงทุน เพื่อลดความเสี่ยงที่คุณไม่อยากจะคาดคิดเลยละครับ 

  1. คิดการใหญ่ใจต้องนิ่ง

อีกหนึ่งสัญญาณของคนที่ประสบความสำเร็จคือ มีความคิดที่ก้าวไกล คิดการใหญ่แถมใจต้องนิ่งด้วย เช่น ในช่วงนักศึกษาคุณอยากมีเงินเก็บสัก 100,000 บาท แน่นอนว่าอาจเป็นเรื่องยากหากคุณได้รับเงินค่าขนมจากผู้ปกครองเพียงแค่เดือนละ 7,000 บาทเมื่อบวกลบกับค่าครองในการใช้ชีวิต คุณอาจจะยอมลดค่าใช้จ่ายในส่วนที่ไม่จำเป็นออก แล้วนำเงินบางส่วนลงทุนหรือทำธุรกิจเล็ก ๆ สามารถเพิ่มรายได้ให้กับตัวเองครับ และที่สำคัญก็คือ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะมีวิกฤตถล่มเข้ามาขนาดไหน คุณต้องมีสมาธิ จดจ่ออยู่กับมันอย่างสุขุม นี่แหละครับคือที่มาของคำว่า “คิดการใหญ่ ใจต้องนิ่ง”   

  1. ชื่มชนคนที่ประสบความสำเร็จหรือมีพวกเขาเป็นไอดอล

โดยพื้นฐานของมนุษย์แล้ว เมื่อเห็นคนที่มีทรัพย์สินมากกว่าหรือมีการพัฒนาที่ดีกว่ามักจะเกิดความอิจฉา ซึ่งนั้นก็เป็นปัญหาส่วนบุคคลนะครับ แน่นอนว่าหนึ่งในหัวใจสำคัญที่ทำให้คุณนั้นมีแรงผลักดันสู่ความสำเร็จ ก็คือแรงบัลดาลใจ คุณอาจจะมีคนที่ประสบความสำเร็จแล้วเป็นแรงบัลดาลใจ ทำให้คุณอยากขับเคลื่อนต่อไป แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีกลุ่มคนที่ต่อต้านหรือไม่ชอบด้วยเช่นกันครับ เชื่อว่าอุสหกรรมธุรกิจใหญ่ ๆ มีทั้งคุณและโทษเช่น โครงการ Space x ของ Elon musk เขาถือว่าเป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับแพร่หลาย และความคิดพัฒนาของเขาชั่งแสนบรรเจิด แต่ก็ยังมีกลุ่มคนที่ต่อต้านและไม่ชอบในการกระทำของเขา ซึ่งให้เหตุผลว่าเขาอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ในมุมหนึ่งโครงการและธุรกิจของเขานั้น ได้ช่วยสร้างงานให้แก่หลาย ๆ คน รักษาพลังงานและคิดค้นนวัตกรรมเพิ่มความสะดวกสบายแก่หลาย ๆ คนเช่นเดียวกันครับ

  1. ไม่ทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว

“น้ำเต็มแก้ว” ถือเป็นประโยคสุดคลาสสิคที่คุณอาจเคยได้ยินมาบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเรื่องเรียน 

เรื่องงาน พฤติกรรมที่ไม่ทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้วคือ พร้อมจะเติมเต็ม ทุก ๆ สิ่งพร้อมเติมเต็มทุก- อย่าง การเป็นแก้วใบนี้ จึงมีข้อดีมากมายทำให้พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลาพร้อมที่จะรับกับสิ่งเปลี่ยนแปลงเสมอ น้ำครึ่งแก้วจึงได้เปรียบเพราะเป็นแก้วที่ไม่มีวันเติมเต็ม ไม่ว่าใครจะใส่ความรู้ลงมามากสักเท่าไหร่ เราก็สามารถรับได้ตลอดเวลา แต่หากเป็นน้ำเต็มแก้วคือ 

ไม่ยอมรับสิ่งใหม่ ยึดติดแต่กับสิ่งเดิม ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ซึ่งนั้นก็ทำให้คุณหยุดการพัฒนาและกลายเป็นว่าคุณต่อต้านในทุก ๆ เรื่องที่มีการเปลี่ยนแปลงครับ

  1. ให้ความสำคัญกับกำไรสุทธิ

กำไรสุทธิหรือ Net worth income คือกำไรที่ถูกหักลบจากหนี้สินหมดแล้ว และเหลือเป็นกำไรสุทธิจริง ๆ  อีกหนึ่งสัญญาณที่สำคัญมาก ๆ ว่าคุณจะเป็นเศรษฐีจริงหรือไม่ ? ก็คือคุณมีกำไรมากแค่ไหน อย่าเหมารวมว่ารายได้ทั้งหมดในเดือนนี้ได้เยอะมาก หรือปีนี้ได้หลายล้าน 

หากยังไม่หักจากค่าใช้จ่าย หักค่าภาษีต่าง ๆ นั้นก็ไม่ได้แปลว่าคุณคือเศรษฐีครับ