10 วิธีเปลี่ยนจากคนชอบ “นอนดึก” เป็น “คนตื่นเช้า” (รู้แล้วชีวิตเปลี่ยน!)

Marcus Aurelius เป็นจักรพรรดิแห่งโรมตั้งแต่ปีคริสตศักราชที่ 161-180 ในช่วงที่ปกครองเขาได้สร้างงานเขียนอัตชีวประวัติหลายชุดซึ่งผลงานที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักแพร่หลายก็คือ ปรัชญาการทําสมาธิ ถือได้ว่าเป็นผลงานปรัชญาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดชิ้นหนึ่งเลย ซึ่งปรัชญานี้สามารถนํามาปรับใช้กับวิธีตื่นเช้าและทําให้มีความสุขตลอดทั้งวันได้

1. หาอิคิไกของคุณ

อิคิไก เป็นปรัชญาการใช้ชีวิตของญี่ปุ่นหมายถึงการหาเหตุผลว่าทําไมคุณถึงอยากตื่นนอน ทําไมคุณถึงอยากมีชีวิต คุณค่าการมีชีวิตอยู่ของคุณคืออะไร มาร์คัสเชื่อว่า หากเรารู้สาเหตุว่า อะไรคือเหตุผลที่ทําให้เราอยากจะดําเนินชีวิตและอะไรคือเหตุผลที่จะทําให้เรามีความสุขที่จะตื่นขึ้นมา นั่นก็เป็นอีกข้อนึงที่จะทําให้คุณอยากตื่นเช้า หากคุณไม่รู้ว่า อิคิไก ของคุณคืออะไร ลองถามตัวเองว่า ถ้าฉันมีเวลามากพอฉันจะอยากทําอะไรมากที่สุด เช่น ฉันอยากจะเที่ยวรอบโลก อยากจะเป็นอาสาสมัคร หรือ ฉันอยากจะหาเงินให้ได้เยอะๆเพื่อพ่อแม่จะได้อยู่อย่างสุขสบาย ซึ่งนั่นก็อาจจะเป็นเหตุผลที่ทําให้คุณอยากตื่นขึ้นมาและดําเนินชีวิตสู่เป้าหมาย

2. จัดเตรียมสิ่งที่จะทําในวันพรุ่งนี้

ก่อนที่คุณจะเข้านอน คุณต้องรู้ว่าพรุ่งนี้ มีโปรแกรมอะไรบ้างที่คุณจําเป็นจะต้องทํา เป็นการวางแผนบริหารเวลาล่วงหน้าให้กับตัวเองในทุกๆวัน เช่น ปกติคุณจะต้องออกกําลังกายตอนเช้า เวลา 9:00น แล้วคุณก็ต้องเริ่มทํางาน คุณอาจจะเตรียมเสื้อผ้าที่จะสวมใส่สําหรับออกกําลังกายพรุ่งนี้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม แล้วตั้งนาฬิกาปลุกสัก 5:30น. เพื่อปลุกตัวเองจากการนอนและดําเนินโปรแกรมที่จะต้องทํา

3. อย่าเพิ่งเช็คมือถือหลังจากตื่นนอน

คนตื่นเช้า

บ่อยครั้งหลังจากที่คุณตื่นสิ่งแรกที่คุณทําก็คือการเช็คมือถือ เช็คอีเมล ซึ่งมันค่อนข้างที่จะกินเวลา ก่อนที่คุณจะเริ่มทํากิจกรรมต่อไปเช่น อาบน้ำ, กินข้าว หรือแม้กระทั่งการออกกําลังกาย ผมไม่ค่อยแนะนํานะครับว่า การเริ่มต้นของเช้าวันใหม่ด้วยสิ่งที่รบกวนเช้าๆ อย่างนี้ค่อนข้างจะเสียเวลาและสุขภาพจิต เช่น คุณอาจจะเช็คหุ้นบิทคอยน์ ซึ่งมันบังเอิญว่าวันนี้มันตกพรวด เช้าวันใหม่ของคุณก็จะกลายเป็นวันแย่ๆไปเลย หรือ อีเมลจากลูกค้าที่ตีงานกลับมา ซึ่งแน่นอนว่าคุณต้องเจอปัญหาพวกนี้อยู่แล้ว ลองเปลี่ยนมาเช็คงานหลังจากกินข้าวเช้าเสร็จหรือตอนไหนก็ได้ที่ไม่ใช่หลังจากตื่นนอน

4. หัดตื่นเช้าอย่างสม่ำเสมอ

การตื่นนอนในเวลา 5:30น. ของทุกๆวัน ช่วยให้คุณมีเวลามากขึ้นในการทําสิ่งต่างๆ เราทํากิจกรรมได้หลายอย่างก่อนที่จะเริ่มงานในตอนเช้าและตอนเย็นเมื่องานเสร็จแล้วก็สามารถใช้เวลากับครอบครัวได้มากขึ้น เชื่อว่าหลายหลายคนคงไม่ชอบการตื่นเช้าและเพลิดเพลินกับการนอนหรอก แต่ขณะเดียวกันในกิจวัตรประจําวันบังคับให้เราตื่นเช้า เช่น ไปโรงเรียน ไปทํางานตอน 8:00น. เช้าหรือแม้กระทั่งต้องออกไปจ่ายตลาดแต่เช้า เป็นอีกวิธีในการฝึกร่างกายให้ชินกับการตื่นเช้าๆและอีกวิธีคือการหาเหตุผลให้กับตัวเองว่าทําไมคุณต้องตื่นเช้าเช่น เพราะจะมีเวลามากกว่าคนอื่นในการทําอะไรได้มากกว่าใคร, ได้สูดอากาศตอนเช้าที่บริสุทธิ์หรือมีเวลามากพอที่จะได้ทําในสิ่งที่รักเป็นต้น หากคุณตอบตัวเองได้มันจะช่วยให้เราอยากตื่นเช้าและเมื่อฝึกตัวเองบ่อยๆการตื่นเช้าก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

5. อย่ากดดันตัวเอง

หลายคนคงเคยคิดว่าการตื่นเช้า เป็นเรื่องที่ยากมากๆ การเอาชนะความรู้สึกของตัวเองช่างเป็นสิ่งที่ยากสุดๆ หากคุณเป็นคนที่ตั้งปณิธานไว้แน่วแน่แล้วว่า พรุ่งนี้ฉันจะต้องตื่นเช้า แต่สุดท้ายก็ล้มเหลว เพราะเอาชนะความง่วงไม่ได้และนั่งโทษตัวเองรู้สึกผิดที่อุตส่าห์ตั้งใจ แต่ก็ยังทําไม่ได้ ผมอยากจะแนะนําว่าบางทีเราก็ไม่ควรกดดันหรือโทษตัวเองจนเกินไปการที่เราพลาดการตื่นเช้าในวันนี้ไม่ได้หมายความว่าคุณจะตื่นสายไปตลอดชีวิต ดังนั้นเราควรเดินทางสายกลางบ้าง ไม่ตึงเกินไป ไม่หย่อนเกินไป อยู่ในความพอดี

6. ฝืนตัวเองบ้าง

เชื่อว่าการฝืนตัวเอง ถือเป็นอีกวิธีหักดิบและต้องต่อสู้กับความง่วงมากๆ หากคุณลองฝืนตัวเองดูสักตั้ง ทําทุกเช้าบ่อยครั้งก็จะกลายเป็นความเคยชินเช่นปกติคุณอาจจะวางนาฬิกาปลุกไว้ที่หัวเตียง ลองเอาไปไว้อีกมุมหนึ่งของห้อง เพื่อเวลานาฬิกาปลุกที่ดังขึ้นคุณจะต้องลุกไปปิดมัน ปัจจุบันนี้มีนวัตกรรมนาฬิกาปลุกที่ทันสมัยมากๆ ช่วยหรือบังคับให้ตื่นได้ เช่น นาฬิกานางฟ้าหากถึงเวลาที่ต้องปลุกตัวนางฟ้าบนแท่นของนาฬิกาจะดีดออกแล้วหมุนลอยไปพร้อมกับเสียงปลุกของคุณ ซึ่งคุณต้องจับตัวนางฟ้ากลับมาเสียบที่แท่นของมัน ค่อนข้างที่จะฝืนตัวเองและใช้เวลานานมากๆ การันตีเลยว่าตื่นแน่นอนหากคุณรู้ตัวว่าคุณฝืนและสู้กับจิตใจไม่ได้นวัตกรรมที่กล่าวมาข้างต้นก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจนะครับสามารถหาซื้อได้ตามเว็บขายของออนไลน์ทั่วไป

7. ให้คนรอบข้างปลุกคุณ

คนตื่นเช้า

วิธีนี้ถือเป็นอีกวิธีที่ง่ายมากๆ ครับหากการตื่นเช้าเป็นสิ่งที่ยากใช้นาฬิกาปลุกแล้วก็ยังกลับมานอนต่ออยู่ดี เราขอให้คนรอบข้างอาจจะเป็นพ่อแม่หรือเพื่อนร่วมห้องช่วยปลุกคุณ แต่ต้องขอบอกไว้ก่อนนะครับว่าบุคคลที่คุณจะขอความช่วยเหลือ ควรเป็นคนที่มีความรับผิดชอบและเป็นคนที่มีนิสัยตื่นเช้าอยู่แล้วนะครับ เพราะจะง่ายต่อการปลุกคุณมากกว่า

8. จําไว้ว่าคนเรายังไงก็ต้องตายอยู่ดี

ดูจากหัวข้ออาจจะสงสัยนะครับว่ามันเกี่ยวยังไงกับการที่ทําให้เราตื่นเช้า หลายครั้งที่เราใช้ชีวิตไปโดยเปล่าประโยชน์อยู่ไปวันๆ ไร้ซึ่งความหมาย โปรดจําไว้ว่าสิ่งที่เรียกว่าความตาย เราไม่รู้ว่ามันจะมาหาเราเมื่อไหร่ ยิ่งปัจจุบันการเสียชีวิตไม่มีแค่เฉพาะคนแก่เท่านั้น แต่มันยังมีทั้งอุบัติเหตุโรคภัยหรือแม้กระทั่งอาชญากรรมเป็นต้น ที่จะพรากชีวิตเราจากคนที่เรารักหรือสิ่งที่เรารัก ที่กล่าวมาข้างต้นจะหมายถึงว่า หากคุณลองคิดแบบนี้ คุณจะเริ่มรักตัวเองและตื่นเช้าเพื่อทําในสิ่งที่คุณรักด้วยความมุ่งมั่น

9. นําสิ่งแย่ๆมาเป็นแรงผลักดัน

คุณเคยเจอคนแย่ๆ ไหมครับ อาจจะเป็นการโดนล้อเลียนเรื่องความอ้วน เรื่องฐานะ หรือแม้กระทั่งเรื่องการทํางาน แน่นอนว่าหลายๆ คนคงไม่ชอบหรอกครับ ทําไมไม่ลองเปลี่ยนพลังลบให้มาเป็นแรงผลักดัน ในการพัฒนาตัวเอง เช่น โดนล้อเรื่องอ้วน-ดํา ก็ลองหันมาตื่นเช้าๆ เพื่อออกกําลังกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ โดนเหน็บเพราะความจน ก็ผลักดันตัวเองให้มาทํางาน หาช่องทางให้หลุดจากความยากจนเป็นต้น สิ่งที่ผมหมายถึงคือหากคุณกําลังเจอเรื่องแย่ๆเล่นงานอยู่ ลองเปลี่ยนพลังงานลบเหล่านั้นมาเป็นแรงผลักดันพัฒนาตัวเอง ถ้าเรามีแรงจูงใจและมีเป้าหมายในการตื่นเช้าก็ง่ายขึ้น

10. รู้สึกดีกับชีวิต

การขอบคุณทุกอย่างที่อยู่รอบๆ ตัวเราสิ่งดีๆที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเรื่องเล็กน้อยหรือเรื่องใหญ่แค่ไหน และ รู้สึกดีกับการที่ได้มีชีวิตใหม่ในทุกๆวัน ลองเขียนสิ่งที่คุณอยากจะขอบคุณมา 3-5 อย่างลงในสมุดจดเป็นรูปธรรม ให้เห็นว่าถึงแม้ว่าวันนี้จะเจอเรื่องหนักๆแต่ก็ยังมีเรื่องที่ดีเกิดขึ้น วันนี้คุณทํางานหนักมาก แต่พอกลับมาบ้านคุณก็ยังเจอภรรยาหรือสามีที่คุณรัก ทําเมนูโปรดรอคุณ น้องหมาที่แสนซื่อสัตย์คอยมาอ้อนคุณ คุณอยากจะขอบคุณที่มีพวกเขาเหล่านั้นคอยเคียงข้างในวันที่คุณเจอเรื่องแย่ๆ และ ถือเป็นการพลังงานให้กับตัวเองพร้อมสู้ในวันต่อๆไป

ทั้ง 10 ข้อเกี่ยวกับการตื่นเช้านี้ ซึ่งบางข้อคุณอาจจะรู้สึกว่ามันไม่ได้ช่วยคุณแต่ก็นั่นแหละครับ ทุกข้อไม่ได้เหมาะสมกับทุกคนเพราะฉะนั้นลองหยิบบางข้อไปปรับใช้ก็ได้ ซึ่งถ้าหากคุณสามารถทําได้ทั้งสิบข้อ ผมรับประกันเลยว่าคุณจะติดใจในการตื่นเช้าแน่นอน