ไม่มีคำว่า “ทำไม่ได้” มีแต่ “จะทำได้อย่างไร” วิธีคิดแบบคนสำเร็จ Growth Mindset

คุณเชื่อไหมว่ามีการวิจัยเกี่ยวกับลักษณะนิสัยเชิงจิตวิทยาของกลุ่มคนที่ประสบความสําเร็จ โดยหยิบยก Bill Gates หรือ NASA เป็นบรรทัดฐานของคนที่มีศักยภาพมากๆและคนที่ประสบความสําเร็จ Carol Dweck คือนักจิตวิทยาชื่อดังที่เขียนหนังสือเกี่ยวกับ Mindset และ ยังเชื่อว่ามนุษย์เรามี Mindset อยู่สองแบบก็คือ Growth Mindset และ Fixed mindset นั่นเอง โดย Growth Mindset เชื่อว่าคนเราสามารถพัฒนาความสามารถ ฝึกฝนความสามารถต่างๆ นําไปสู่ความสําเร็จได้ กล้าที่เสี่ยงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า

แต่ในทางกลับกัน Fixed mindset คือชุดความคิดแบบเดิมๆมีความสามารถเท่าไหนก็เท่านั้น ถ้าเป็นคนที่มีพรสวรรค์ก็จะมีอยู่อย่างจํากัดกลัวความผิดพลาดและไม่กล้าเสี่ยง พูดง่ายๆ ว่าถ้าเกิดมาเป็นคนฉลาดยังไงก็จะฉลาด แต่ถ้าเกิดมาเป็นคนโง่ พัฒนาแค่ไหนก็สู้คนฉลาดไม่ได้อยู่ดี คนเหล่านี้เชื่อในความฉลาด แต่มักไม่ค่อยให้ความสําคัญกับความพยายามและการทํางานหนัก สําหรับผม ผมคิดว่า Growth Mindset ค่อนข้างสนใจกว่าการเป็นคนที่มี Fixed mindset เพราะว่าเราสามารถพัฒนาทักษะตัวเองให้ดียิ่งขึ้น

ดังนั้นเราจะมาพูดถึงเรื่อง Growth Mindset กันสักหน่อย Growth Mindset คือความเชื่อที่ว่าสติปัญญาและทักษะในด้านต่างๆสามารถพัฒนาได้ คุณต้องลงมือทําเองและยังเป็นการขยายมุมมองในการมองโลกได้กว้างขึ้นและสามารถเพิ่มโอกาสที่คุณจะประสบความสําเร็จได้ มีการวิจัยเกี่ยวกับคนที่ประสบความสําเร็จส่วนใหญ่ มักมี Growth Mindset มีการทดลองให้นักเรียนที่ดูมีลักษณะ Growth Mindset สอบ ผลปรากฏว่ากลุ่มนักเรียนที่มี Growth Mindset สามารถทําคะแนนได้อยู่ในระดับท้อปๆถึง 20 เปอร์เซ็นต์และกลุ่มนักเรียนที่มี Fixed mindset ได้คะแนนที่ระดับต่ำกว่า

Growth mindset คือกุญแจสู่ความสำเร็จ
Growth mindset คือกุญแจสู่ความสำเร็จ

และยังมีงานวิจัยโดยให้นักเรียนชั้นม.ต้น เข้าร่วมโปรแกรมพัฒนา Growth Mindset เด็กๆ ได้เรียนรู้ที่จะก้าวออกจาก Comfort Zone กล้าทําในสิ่งที่ท้าทายและเรียนรู้ความผิดพลาด ทําให้เกิดการพัฒนาทางความคิดและไม่กลัวที่จะทําสิ่งใหม่ๆ แต่ในทางกลับกันกลุ่มนักเรียนที่มี Fixed mindset มักจะกลัวความผิดพลาด ถ้าเกิดข้อผิดพลาดในครั้งแรกก็จะยังเชื่อว่าจะต้องผิดพลาดตลอดไปไม่กล้าทําสิ่งที่จะท้าทาย อยู่แต่ในเซฟโซนซึ่ง Growth Mindset ยังเชื่อว่าสมองเราสามารถเรียนรู้ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดและสามารถเปลี่ยนแปลงได้อีกเช่นกัน และเราจะสามารถพัฒนาให้มี Growth Mindset ได้อย่างไร

ข้อที่หนึ่ง ทําความเข้าใจสมองของเราสามารถพัฒนาได้อย่างไม่มีวันสิ้นสุดและไม่มีวันตาย ตัวผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Neuroplasticity ชี้ให้เห็นว่าโครงสร้างในสมองของเราจัดระเบียบใหม่ได้เอง แสดงให้เห็นว่าคนเราสามารถปรับแต่งตัวเองไปทางไหนก็ได้จากต้นทางที่เราเกิดมาเริ่มแรก

ข้อที่สอง การสนุกกับระหว่างทางของการพัฒนา จะช่วยให้คุณเดินต่อไปได้เรื่อยๆ หากคุณจดจ่อกับปลายทางว่าเมื่อไหร่คุณจะถึง คุณอาจจะหมดสนุกท้อและเลิกทําไปก่อน ในที่สุดคนที่มี Growth Mindset มักจะสนุกกับกระบวนการเรียนรู้ของตัวเอง รู้สึกดีที่เห็นตัวเองเชี่ยวชาญขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีติดขัดบ้างมากกว่าจะกดดันให้ตัวเองต้องสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ

ข้อที่สาม ออกจาก Comfort Zone หลายคนมักเชื่อว่าคนที่ประสบความสําเร็จคือคนที่มีพรสวรรค์มาตั้งแต่เกิด ซึ่งความเป็นจริงแล้ว การเรียนรู้พัฒนาและฝึกฝนต่างหากคือสิ่งที่จะพาคุณไปสู่ความสําเร็จอย่างแท้จริง งานยากจะดึงศักยภาพของคุณออกมาโดยธรรมชาติ คนเรา มักจะมีความกลัวความล้มเหลวเมื่อต้องรับโอกาสท้าทายใหม่ๆที่คุณยังไม่แน่ใจว่าจะทําได้หรือไม่ แต่หากคุณเอาแต่อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยและงานง่ายของตัวเองต่อไป คุณจะไม่ได้พัฒนาและเติบโตไปไหนเลย

ดังนั้นปัญหาและงานยาก คือพาหนะที่จะพาตัวคุณเองให้เก่งขึ้นได้เรื่อยๆครับ ดังนั้นตอนนี้คุณก็รู้เกี่ยวกับ Growth Mindset ว่าทําไมถึงสําคัญและวิธีพัฒนา จําไว้ว่าคุณต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการพัฒนากรอบความคิด ถึงแม้ว่าจะต้องต่อสู้กับจิตใจของตัวเองเพื่อหลีกเลี่ยงกรอบความคิดที่ตายตัวเหมือนคํากล่าวของ Carol Dweck ที่ว่า “The path to a growth mindsets a lifelong journey not a proclamation” เส้นทางสู่การพัฒนากรอบความคิดมันคือการเดินทางตลอดชีวิตครับมันไม่ใช่แค่คําพูด