10 วิธีบริหารเวลาขั้นเทพ เลิกบ่นว่าไม่มีเวลา เปลี่ยนมาบริหารเวลาอย่างมีคุณภาพดีกว่า!

Lucius Annaeus Seneca นักปรัชญาชาวโรมันเกี่ยวกับลัทธิ Stoic เคยเขียนไว้ว่า ไม่ใช่ว่าคนเราจะอายุสั้น แต่เราเสียเวลาไปกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องมากเกินไป เราทุกคนมักชอบผลัดวันประกัน ใช้เวลากับเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์ กิเลสต่างๆมักล่อลวงเราและเป็นศัตรูกับการบริหารเวลา การจัดการเวลาเลยเป็นเรื่องที่ยากมากๆ มันเป็นกระบวนการที่ไม่มีที่สิ้นสุด โชคดีที่นักปรัชญาเช่น เซเนก้า มีมุมมองที่มีคุณค่าเกี่ยวกับวิธีที่เราจัดการเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ นั่นคือ 10 เคล็ดลับที่จะสอนคุณเกี่ยวกับวิธีจัดการกับเวลาครับ

10 วิธีบริหารเวลาขั้นเทพ
10 วิธีบริหารเวลาขั้นเทพ

ข้อที่ 1 ใช้เวลาอย่างมีคุณค่า

คุณเคยได้ยินคํานี้ไหมครับว่า ใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า ซึ่งคํานี้ในการบริหารเวลาก็เช่นกันนะครับ เรามักจะใช้เวลาอย่างไร้ประโยชน์และไม่มีคุณค่า แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็กลับมาเสียดายทีหลัง ลองนึกภาพดูว่าคุณเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่รวยเอามากๆแล้วเขาก็กําลังโปรยเงินทิ้งโดยที่ไม่รู้คุณค่าของมัน ซึ่งแน่นอนครับว่าคุณคงคิดว่าเขาบ้าแน่นอนที่ทิ้งสิ่งที่มีค่าโดยที่ไม่รู้คุณค่าของมัน

ผมจะยกตัวอย่างง่ายๆให้เห็นภาพนะครับ เช่น นักเรียนมหาลัยชั้นปีที่ 1 สอบตก ทําให้เขารู้สึกตระหนักและเสียดายเวลา 1-2 เดือนในการอ่านหนังสือ ที่เขาไม่ตั้งใจอ่านพลาด หรือ ถ้าเราพลาดขบวนรถไฟแค่ไม่กี่นาที ก็ทําให้ตระหนักถึงเวลาว่าเราควรจะมาให้เร็วกว่านี้ บนโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนก็คือเวลาซึ่งมีอยู่อย่างจํากัด เงินและทรัพย์สินสามารถเพิ่มขึ้นและลดลงได้ ขึ้นอยู่กับโชคหรือความพยายามของเรา แต่สิ่งเดียวที่ถูกกําหนดไว้ก็คือเวลาของเราครับ เพราะฉะนั้นหากใช้เวลาอย่างไม่รู้คุณค่าก็สามารถเป็นสาเหตุแห่งความเสียใจได้อีกด้วยครับ

ข้อที่ 2 อย่าใช้เวลาไปกับการสร้างตัวเองจนลืมความสุข

เซเนก้า ได้เขียนไว้ว่า ไม่ใช่ว่าคนเราจะอายุสั้น แต่เราเสียเวลาไปกับสิ่งไร้ค่ามากเกินไป ชีวิตนั้นยืนยาวเพียงพอเสมอ ดังนั้นเราไม่ได้มีชีวิตที่สั้นครับ แต่เราทําให้มันสั้นเอง ชีวิตจะยืนยาวถ้าคุณรู้จักใช้มัน อย่าใช้เวลาไปกับการจัดเตรียมชีวิตตัวเอง ยุ่งอยู่กับงานจนละเลยความสุขในปัจจุบัน เราใช้เวลาไปกับงานที่ไม่มีจุดหมาย งานที่เราไม่ได้รักมัน เพื่อรักษาชีวิตที่เราไม่ต้องการมันจริงๆ เซนเนก้า ยังกล่าวอีกว่า สิ่งที่มีอยู่อาจจะไม่ใช่การดํารงชีวิต แทนที่จะควบคุมชีวิตของเราและทํางานอย่างมีความหมาย เรากลับปล่อยให้ตัวเองเป็นเหยื่อของการทํางานที่ไร้ความสุข ดังนั้นคุณควรหางานที่ตัวเองสนใจที่มีจุดมุ่งหมายที่ดีและมีพื้นที่ให้กับความสุขของคุณครับ

ข้อที่ 3 ใช้ชีวิตเพื่อความเป็นตัวของตัวเอง

บ่อยครั้งที่เรายุ่งอยู่กับสิ่งที่เราไม่ชอบและนั่นคือสิ่งที่ทําให้ไขว้เขวที่สุดในชีวิตของคุณ เราเสียเวลากับงานที่เราไม่มีความหลงใหล ความสัมพันธ์ที่เราไม่มีความสุขหรืออะไรต่างๆนาๆ แน่นอนละครับว่า คุณมีสิ่งที่ปรารถนาจริงๆ เช่น การมีรถในฝันสักคันการที่มีบ้านสวยๆ อย่างที่คุณตั้งใจหรือแม้กระทั่งลักษณะคู่ชีวิตที่คุณต้องการ แต่สิ่งเหล่านั้นคนส่วนน้อยที่จะประสบความสําเร็จที่ได้มาในสิ่งที่ตัวเองปรารถนา คนใหญ่มักจะวุ่นอยู่กับการทํางานหาเงินตัวเป็นเกลียว เพื่อใช้หนี้สิน เราควรหันมาให้ความสําคัญกับเวลา หาความต้องการของชีวิตเราจริงๆ สิ่งที่ชอบจริงๆ และสามารถอยู่ร่วมกับมันได้อย่างมีความสุข แต่ถ้าคุณยังไม่ทราบว่าสิ่งที่ตัวเองต้องการหรือสิ่งที่ตัวเองชอบคืออะไรล องถามตัวเองดูว่าถ้าฉันมีเวลามากพอ ฉันจะอยากทําอะไรและถ้าฉันสามารถเปลี่ยนอะไรได้ คุณอยากจะเลือกเปลี่ยนเป็นอะไร ลองถามตัวคุณเองครับแล้วคุณจะพบคําตอบ

เตรียมรับมือสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่จะเกิดขึ้น
เตรียมรับมือสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่จะเกิดขึ้น

ข้อที่ 4 เตรียมรับมือสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่จะเกิดขึ้น

Premeditatio Malorum มาจากภาษาลาตินที่แปลว่า การไตร่ตรองล่วงหน้าถึงความชั่วร้ายและปัญหาที่อาจรออยู่ข้างหน้า เป็นการฝึกจินตนาการถึงสิ่งที่อาจผิดพลาดหรือถูกพรากไปจากเรา ช่วยให้เราเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในชีวิตไม่ใช่ทุกอย่างที่เราจะได้มาดั่งใจ คิดในทางจิตวิทยาเราต้องเตรียมตัวให้พร้อมสําหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ลองจินตนาการถึงเรื่องที่แย่มากๆครับ เช่น หากพ่อของฉันเกิดล้มป่วย จนไปถึงเสียชีวิต ฉันจะทํายังไงต่อไป หรือ แม้กระทั่งลูกที่เพิ่งคลอดก่อนกําหนดอาจมีอาการทรุดหนัก ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวอาจจะมาไม่ถึงหรือไม่เกิดขึ้น มันจะช่วยฝึกจิตใจให้คุณพร้อมรับมือและใช้เวลาที่มีค่าให้เกิดประโยชน์ ฟังดูอาจจะเหมือนการตีตัวไปก่อนไข้นะครับ แต่มันก็ทําให้เราเห็นคุณค่าของเวลาจากการจินตนาการจากสิ่งที่แย่ๆ

ข้อที่ 5 อย่าให้รางวัลกับตัวเองถ้างานยังไม่สําเร็จ

ผมเชื่อว่ามีหลายคนครับที่ทํางานและให้รางวัลกับตัวเองไปด้วย แม้งานจะยังไม่สําเร็จก็ตาม การผลัดวันประกันพรุ่ง เป็นความรู้สึกที่มีอนุภาพเกินต้านมากครับ ในตอนที่จะเริ่มทํางานหรือสิ่งที่สําคัญแม้ว่าคุณจะจัดการสิ่งที่รบกวนทั้งหมดออกไปแล้ว เพื่อให้พร้อมที่จะทํางานสําคัญนั้นๆ แต่มันก็ต้องมีความคิดแอบผุดขึ้นมาบ้างละครับว่า ดูซีรีย์เรื่องนี้สักตอนหนึ่งได้ไหมแล้วค่อยทํางาน แต่ปรากฏว่าดูจบไปแล้วหนึ่งซีซั่นทั้งๆที่ยังไม่ได้เริ่มทํางานที่มันสําคัญเลย เวลาที่ผ่านไปจึงหมดไปกับเรื่องไร้สาระ ลองทําข้อตกลงกับตัวเองก่อนที่จะให้รางวัลตัวเองเช่น อ่านหนังสือ 1-2 บททําความเข้าใจก่อนและฝึกทําแบบทดสอบนี้ให้สําเร็จแล้วค่อยพักกินเค้กมะพร้าวอร่อยๆสักชิ้นหนึ่งเป็นต้นครับ

ข้อที่ 6 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด

คนเรามักจะยุ่งกับการทํางานเพื่อให้ได้สิ่งตอบแทนที่ดีที่สุดก็คือ เงินและเวลาครับ เพื่อที่จะได้ทําในสิ่งที่ชอบ บางคนอาจจะเลือกสังสรรค์กับเพื่อนๆ หลังเลิกงานหรือแทงสนุกเกอร์แก้เซ็ง ผมจะบอกว่ากิจกรรมเหล่านั้นเนี้ยมันก็ไม่ได้ผิดนะครับ เป็นอีกวิธีสําหรับพักผ่อนตัวเองจากงานที่วุ่นวาย แต่เวลาที่ผ่านไปกับการใช้เวลาในกิจกรรมเหล่านั้น มันทําให้คุณประสบความสําเร็จหรือก้าวไปอีกระดับหนึ่งหรือเปล่า ลองคิดดูนะครับว่าหากคุณเปลี่ยนจากสังสรรค์ปาร์ตี้ มาเป็นการอ่านหนังสือเพื่อพัฒนาตัวเองหรือออกกําลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น กิจกรรมอะไรก็ได้ที่พัฒนาตัวคุณไปอีกก้าวหนึ่งสู่เป้าหมาย ถือว่าเป็นการเวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุดครับ

ข้อที่ 7 อย่าลืมอดีต

เซเนก้า กล่าวไว้ว่า ชีวิตนั้นสั้นและน่าเป็นห่วงสําหรับผู้ที่ลืมอดีตของตน ละเลยสิ่งที่เกิดและกลัวในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง เซเนก้า ได้บอกไว้อีกว่า เวลาเป็นสิ่งที่สําคัญแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ประเภทแรก คือ ปัจจุบัน นั่นคือสิ่งที่ชั่วคราว อนาคตคือสิ่งที่ไม่แน่นอน และ อดีตคือสิ่งที่ไม่สามารถแก้ไขได้

แต่ในปัจจุบัน ทฤษฎีสมัยใหม่เกี่ยวกับการบริหารเวลา มักจะให้ความสําคัญแค่เฉพาะปัจจุบันและอนาคต ซึ่งหมายถึงสิ่งชั่วคราวและไม่แน่นอน การบริหารเวลาของนักปรัชญาอย่างเซเนก้า คือการให้ความสําคัญถึงอดีต แน่นอนว่าเราไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้ แต่ในอดีตได้ให้บทเรียนกับเราในหลายๆเรื่อง และหล่อหลอมให้เป็นตัวคุณในวันนี้และยังคอยเตือนว่าคุณในวันนี้นั้นมาไกลแค่ไหนแล้ว

ข้อที่ 8 หยุดเสียเวลากับเรื่องไร้สาระ

เราทุกคนมักเสียเวลาเล็กๆน้อยๆไปกับการจ้องหน้าจอมือถือ อัปเดตสถานะ ส่องดูข่าวสารจากเพื่อนๆตลอดเวลาไม่รู้จบ เราสละเวลาอันมีค่าของตัวเองในส่วนนี้ให้กับคนอื่นอยู่บ่อยครั้ง หรือ เรื่องที่ไร้สาระ เรื่องที่ไร้สาระก็คือ สิ่งที่ทําแล้วไม่ก่อเกิดประโยชน์กับตัวเอง ซึ่งแต่ละคนก็จะมีเรื่องไร้สาระที่แตกต่างกันออกไป

เราไม่สามารถเหมารวมได้ว่ากิจกรรมนี้ไร้ประโยชน์มากๆ ที่อาจจะเป็นเรื่องที่มีสาระและเป็นประโยชน์กับคนอื่น เช่น เล่นกีตาร์ บางคนอาจจะคิดว่าการเล่นดนตรีเป็นเรื่องไร้สาระที่จะนําไปสู่อาชีพเต้นกินรํากินแต่ในอีกมุมมองหนึ่งของคนที่รักเสียงดนตรี มีความใฝ่ฝันที่อยากจะเป็นนักกีตาร์มืออาชีพ พวกเขามองถึงการฝึกฝนพัฒนาตัวเองกับสิ่งที่รักนําไปสู่เป้าหมาย ไม่ควรเสียเวลากับเรื่องไร้สาระสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์กับตัวเองแต่ก็ไม่จําเป็นต้องใช้ไม้แข็งขนาดนั้นกับตัวเองนะครับ แต่ถ้ารู้ว่าตัวเองกําลังทําอะไรทําไปเพื่ออะไรก็ช่วยดึงสติตัวเองกลับมาได้แล้วนะครับ

ข้อที่ 9 ลงทุนเวลาเพื่อสร้างความทรงจําที่ดี

คุณหมกมุ่นอยู่กับความวุ่นวายในชีวิตที่เร่งรีบ ในขณะเดียวกันความตายมาถึงและคุณก็ไม่มีทางเลือกที่จะเตรียมพร้อม เซเนก้า กล่าวไว้ว่า หากคุณนําเงินสักก้อนให้กับเศรษฐี นักลงทุน พวกเขาเหล่านั้นจะนําเงินไปลงทุนในหลักทรัพย์ที่ให้ผลกําไรตอบแทนสูงที่สุด ในทํานองเดียวกันครับ เราทุกคนควรลงทุนเวลาของเราอย่างชาญฉลาดเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดี เช่น ลองเรียนเป่าแซกโซโฟน ออกเดินทางท่องเที่ยวยุโรปเก็บเกี่ยวประสบการณ์และความทรงจํา เพราะความทรงจํานั้นยั่งยืนยิ่งกว่าความโศกเศร้าอีกครับและ ทําให้เรามีความสุขได้

ข้อที่ 10 การศึกษาปรัชญา

ปรัชญา คือ การหาความรู้ ความจริง เพื่ออธิบายเหตุการณ์และสิ่งต่างๆ ตามหลักเหตุและผลอย่างกว้างๆ โดยใช้หลักการของนักวิชาตรรกวิทยานั กปรัชญาได้ใช้เวลาหลายพันปีในการพยายามค้นหาคําตอบเกี่ยวกับจุดประสงค์ในการมีชีวิตอยู่ ศีลธรรมและจิตสํานึกของมนุษย์เพื่อให้เข้าใจความหมายของการใช้ชีวิต แต่การศึกษาปรัชญา ค่อนข้างใช้เวลาในการศึกษาซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาว่าง แต่ถ้าเราศึกษาและเข้าใจมัน ก็ง่ายต่อการดําเนินชีวิต ทัศนคติเปิดกว้างมากยิ่งขึ้น

สรุป

ทั้งหมดนี้ คือ 10 วิธีบริหารเวลาขั้นเทพ ซึ่งจะเอามาพัฒนาตัวเองและพัฒนาชีวิตครับ เวลาของทุกคนมี 24 ชั่วโมงเท่ากันครับอยู่ที่ว่าคุณจะนําเวลาไปใช้ให้มีคุณภาพมากแค่ไหน แต่บางคนก็มีภาระที่ต้องใช้จ่ายเวลานั้นไปกับสิ่งที่ต้องหาเลี้ยงชีวิตอยู่ ดังนั้นแล้วในความเป็นจริง เวลาของทุกคนมันไม่ได้เท่ากันเลย แต่คุณภาพของเวลาทุกคนเท่ากัน อยู่ที่ว่าคุณจะใช้เวลาว่างที่คุณมีอยู่ไปกับสิ่งอะไรกันแน่ครับ เหมือนที่เคยกล่าวไว้ว่า 1 ชั่วโมงของคุณกับ 1 ชั่วโมงนักธุรกิจที่ประสบความสําเร็จ มันมูลค่าไม่เท่ากันเลยครับ