วัคซีนโควิด-19 เข้าไปทำอะไรในร่างกายเรา | อยากรอดต้องรู้!

ในขณะที่โลกของเรากำลังเจอวิกฤติโรคระบาด เป็นเวลากว่าเกือบ 2 – 3 ปีที่เราได้รับผลกระทบอย่างหนัก ที่พรากชีวิตคนในครอบครัว เพื่อน พี่น้องไปนักต่อนัก และรวมไปถึงผลกระทบทั่วโลก แม้ว่าสงครามชีวภาพครั้งยิ่งใหญ่นี้เหมือนจะไม่มีแสงสว่างให้เห็น ปัจจุบันนี้ด้วยเทคโนโลยีและความรู้ของมนุษย์ไม่หยุดนิ่ง ทำให้เราค้นพบวัคซีนที่สามารถป้องกันโรคโควิค 19 ได้ครับ ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีและตื่นเต้นมาก ๆ และยังสามารถแจกจ่ายหรือส่งออกต่างประเทศเพิ่มรายได้ให้กับประเทศผู้ผลิตวัคซีนเลยทีเดียว

ซึ่งวัคซีนที่กำลังเป็นที่นิยมและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในตอนนี้คือ วัคซีนประเภท mRNA ซึ่งย่อมาจาก  Messenger Ribonucleic Acid ซึ่งโดยปกติแล้วร่างกายของเราสร้างโปรตีน mRNA อยู่แล้ว โดยรูปแบบของวัคซีนนั้น จะนำชิ้นส่วนสารพันธุกรรมของเชื้อโควิด- 19 (mRNA) ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างโปรตีน ซึ่งเป็นปุ่มหนามของเชื้อไวรัส (Spike protein) นำมาสังเคราะห์

RNA (Ribonucleic acid)  เป็นโมเลกุลที่มีเกลียวเดี่ยว จะทำหน้าที่เหมือนแม่แบบ (Template)สำหรับแปลข้อมูลจากยีนไปเป็นข้อมูลในโปรตีน แล้วขนย้ายกรดอะมิโนเข้าไปในออร์แกเนลล์ไรโบโซม (ribosome) ของเซลล์ เพื่อผลิตโปรตีน และแปลรหัสเป็นข้อมูลในโปรตีน

ซึ่งไม่เหมือนกันกับ DNA ที่มีโมเลกุลเกลียวสองเส้น เป็นกรดนิวคลีอิกที่มีคำสั่งพันธุกรรมซึ่งถูกใช้ในพัฒนาการ และการทำหน้าที่ของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดเท่าที่ทราบ มีคุณสมบัติมากมาย แต่ไม่สามารถออกไปสู้รบได้ด้วยตัวเอง จึงทำให้ต้องมี mRNA ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ส่งสาร พูดง่าย ๆ ก็คือ DNA เหมือนเป็นบอสมีหน้าที่เซ็นเอกสารคอยตัดสินใจเรื่องนั้นเรื่องนี้ และมี mRNA เป็นเด็กเดินเอกสาร แต่ที่พิเศษใส่ไข่เลยก็คือ mRNA สามารถคัดลอกรูปแบบได้ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องใช้เชื้อโรคของจริงฉีดเข้าร่างกายก็ได้ครับ

ลักษณะรูปร่างของเชื้อโควิค – 19 คุณอาจจะเคยเห็นตามป้ายประกาศต่าง ๆ ที่มีลัษณะกลม ๆ และมีหนามตามรูปทรงของมัน  หนามรอบตัวนั้นมีโปรตีนเพื่อจับตัวกับโฮสต์ จึงทำให้เราสามารถติดเชื้อได้ครับ  แต่อย่างไรก็ตามนักวิทยาศาสตร์ยังสามารถสังเคราะห์โปรตีน 

หรือคัดลอกหนามของเชื้อโรคได้เอง จึงทำให้ไม่จำเป็นใช้เชื้อโรคจริง ๆ ดังนั้นนักวิทยาศาตร์จึงทำการทดลองวัคซีนสูตร mRNA ขึ้นมาและทดสอบให้แน่ใจว่าสามารถต้านไวรัสได้ดีจริง ๆ และนำมาใช้จริง จนเราได้เห็นกันปัจจุบันครับ

และเมื่อฉีดวัคซีนประเภท mRNA เข้าสู่ร่างกาย จะทำให้เซลล์ในร่างกายผลิตโปรตีน

ส่วนที่เป็นปุ่มหนามของไวรัสขึ้น และโปรตีนที่ผลิตในส่วนนี้ จะทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นภูมิคุ้มกัน

หรือพูดง่าย ๆ ก็คือเหมือนเป็นการจำลองสงครามเล็ก ๆ โดยส่งระเบิดลูกเล็กลงไปก่อน เพื่อให้ตัวเรารู้ว่า ในอนาคตอาจจะมีสงครามจริง ๆ  และเราต้องเตรียมกำลังพลให้พร้อมต่อการรบจริงเสมอครับ หรือหากคุณมีประวัติเคยติดโควิค 19 มาก่อนและหายมาแล้ว แน่นอนว่าขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันของแต่ละคน อาจเป็นไปได้ที่ควรจะรับวัคซีนประเภท mRNA เช่นกันครับ 

ซึ่งการจัดเก็บวัคซีนประเภท mRNA นั้นจำเป็นต้องเก็บในอุณหภูมิ – 70 องศาเซลเซียสเท่านั้น เพื่อยืดอายุการใช้งาน หากอุณภูมิเพิ่มขึ้นอาจทำให้วัคซีนเสียไม่มีประสิทธิภาพ หรือหมดอายุได้ใน 5 วันครับ แน่นอนว่าวัคซีนประเภทนี้มีประสิทธิภาพมาก จึงทำให้เกิดการระดมทุน เพิ่มทรัพยากร เพื่อให้ผลิตวัคซีนนี้ได้มากขึ้น ซึ่งอาจจะแตกต่างจากวัคซีนชนิดอื่น ๆ อย่างสิ้นเชิงยกตัวอย่างเช่น ไฟเซอร์ซึ่งเป็นวัคซีนประเภท mRNA และได้รับการยอมรับจากหลาย ๆ ประเทศและมีประสิทธิภาพ กลายเป็นที่ 1 ในใจในตอนนี้ของหลายประเทศเช่นกันครับ

แล้วถ้ารับวัคซีนประเภทนี้ปลอดภัยจริงหรอ ? แน่นอนว่าถึงแม้จะเป็นเทคโนโลยีใหม่ แต่นักวิทยาศาสตร์ก็ได้ทำการทดสอบจนแน่ใจว่า จะมีผลกระทบน้อยที่สุด มีผู้รับวัคซีนกว่าหลายหมื่นคน พบว่ายังไม่มีใครที่ได้รับผลกระทบที่ร้ายแรง แต่อย่างไรก็จำไว้ว่า ถึงจะไม่มีผลกระทบมากเท่าไหร่แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีความเจ็บปวดเล็ก ๆ น้อย ๆ ครับ เหมือนกับคำกล่าวของผู้เชี่ยวชาญนักวิจัยเกี่ยวกับวัคซีนว่า “ไม่ใช่เพียงแค่ความเจ็บปวดกล้ามเนื้อ หลังจากออกกำลังกายเท่านั้น แต่ความเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ อาจเป็นสัญญาณที่ดีในการสร้างภูมิคุ้มให้กับตัวเอง ” ครับ