7 สิ่งที่ไม่ควรซื้อในปี 2024 เพื่อเงินเก็บหลักแสนต่อปี

วันนี้ผมจะมาแนะนำสิ่งของ 7 อย่างที่เราไม่จำเป็นต้องซื้อ เพื่อช่วยประหยัดเงินออมได้มากขึ้น ขอบอกว่าถ้าทำให้เรามีเงินเก็บหลักแสนง่ายๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังมองหาวิธีบริหารเงินอย่างชาญฉลาด เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า!

7 สิ่งที่ไม่ควรซื้อในปี 2024

1. ค่าอาหารเดลิเวอรี่

ความสะดวกสบายของการสั่งอาหารออนไลน์นั้นดึงดูดมาก แต่หากพิจารณาค่าใช้จ่ายแล้ว มันค่อนข้างแพงเกินไป หากสั่งกินทุกสัปดาห์ ก็จะเสียเงินหลายพันบาทต่อปี ซึ่งมากกว่าค่าอาหารเสียอีก วิธีที่ดีกว่าคือลองทำอาหารทานเอง แม้จะเสียความสะดวกบ้าง แต่ก็จะได้อาหารที่สด ร้อน และไม่นิ่มเละ พร้อมประหยัดเงินได้อีกด้วย

2. รองเท้าที่ซื้อมาช่วงเซลล์

รองเท้าคู่โปรดบางคู่ดูสวยงามน่ารัก แต่เมื่อสวมใส่แล้วรู้สึกไม่สบายเท้าหรือเจ็บเพียงใด ก็ไม่คุ้มค่าที่จะเสียเงินซื้อ เพราะในที่สุดมันก็จะกลายเป็นรองเท้าตกกระป๋องนั่นเอง ทางที่ดีควรเลือกรองเท้าที่ใส่สบาย เดินไปไหนก็ได้โดยไม่ปวดเท้า เลือกซื้อเฉพาะคู่ที่จำเป็นและคุ้มค่าเท่านั้น

3. การประกันภัยขยายความคุ้มครอง

เมื่อซื้อสินค้า บริษัทมักจะชักชวนให้ซื้อประกันภัยขยายความคุ้มครองด้วย โดยอ้างว่าจะได้รับความคุ้มครองจากความเสียหายต่างๆ แต่ความจริงแล้ว พวกมันมีข้อยกเว้นและเงื่อนไขมากมายที่เราอาจไม่ได้รับการคุ้มครองตามที่คาดหวัง เช่น พวกมันอาจคุ้มครองหากมีสายไฟขาดแต่ไม่คุ้มครองหากเกิดจากไฟกระชาก หรือบริษัทประกันอาจจ้างช่างซ่อมที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งทำให้เราเสียเงินค่าประกันแพงๆโดยไม่ได้คุ้มค่า นอกจากนี้หากผ่อนชำระและซื้อประกันไปด้วย เราก็จะเสียดอกเบี้ยให้กับมันอีก ดังนั้น หากสินค้าไม่จำเป็นต้องมีการประกันมากนัก เราก็ไม่จำเป็นต้องซื้อ

4. เสื้อผ้าต้องซักแห้ง

เสื้อผ้าบางประเภท เช่น ผ้าขนสัตว์หรือชุดราตรีบางชุด จำเป็นต้องซักแห้งเท่านั้น ด้วยค่าซักแห้งที่แพงมากตั้งแต่ 100 บาท สำหรับเสื้อตัวเดียว ไปจนถึง 2400 บาท สำหรับโค้ทสวยๆ หากซื้อมาแล้วต้องซักซ้ำบ่อยๆ ต้นทุนย่อมแพงเกินควร เช่น ซื้อเสื้อตัวหนึ่งมาในราคา $50 แต่ต้องซักแห้งทุก 1-2 สัปดาห์ ก็กลายเป็นว่าเงิน 1500 บาท ไปแล้ว หากซักประมาณ 20 ครั้ง ก็จะเสียค่าซักถึง 3500 บาทเลยทีเดียว กลายเป็นการสิ้นเปลืองโดยไม่คุ้มค่า ดังนั้นจึงควรเลี่ยงซื้อเสื้อผ้าต้องซักแห้ง เว้นแต่เป็นชิ้นราคาแพงและจำเป็นมากจริงๆ

5. แฟชั่นเร่งด่วน (Fast Fashion)

แฟชั่นสมัยนี้อายุน้อยลงไปทุกทีเนื่องจากแบรนด์ผู้ผลิตต้องสร้างแรงดึงดูดให้ผู้บริโภคซื้อใหม่บ่อยครั้งขึ้น พวกเขาทำออกมาในราคาประหยัดและรวดเร็ว ดังนั้นเสื้อผ้าจึงมักมีคุณภาพไม่ดี ทนทานไม่กี่ครั้งและต้องเปลี่ยนใหม่ทุกซีซั่น สิ่งนี้ส่งผลให้เกิดขยะเยอะเกินไป ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงแฟชั่นประเภทนี้ แต่เลือกซื้อเสื้อผ้าคุณภาพดี ดีไซน์คลาสสิกที่สวมใส่ได้หลายปี จะประหยัดและคุ้มค่ากว่ามาก

6. ค่างวดรถยนต์

คนหลายคนอาจมองว่าการผ่อนค่างวดรถเป็นเรื่องปกติ โดยแค่คิดว่าการจ่ายค่างวดนั้นอยู่ในงบประมาณเท่านั้นพอ แต่หากเราวิเคราะห์ในมุมกว้างของต้นทุนทั้งหมดตลอดอายุการผ่อน ตัวเลขที่แท้จริงนั้นอาจสูงมากกว่าที่คิด ยกตัวอย่างเช่น รถใหม่ราคา 7 แสนบาท ผ่อน 6 ปีในอัตราดอกเบี้ย 7.5% เมื่อรวมทั้งดอกเบี้ยแล้ว เราต้องจ่ายไปถึงหลักล้านบาทเลยทีเดียว คิดเป็น 24% เกินราคารถเลยทีเดียว ซึ่งหากทราบตัวเลขนี้ตั้งแต่แรก บางคนอาจเลือกไม่ซื้อรถในราคาแพงเช่นนี้ ดังนั้นทางที่ดีควรเก็บเงินก้อนไว้ก่อน พอมีเงินพอก็จ่ายเงินสดซื้อรถใหม่ดีกว่า หลีกเลี่ยงภาระหนี้ค่างวด

7. ทีวีเคเบิลหรือดาวเทียม

ในอดีตการรับชมทีวีผ่านเคเบิลหรือดาวเทียมอาจเป็นทางเลือกเดียว แต่ในปัจจุบันแพลตฟอร์มออนไลน์สตรีมมิ่งต่างๆได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตไปแล้ว อย่าง Netflix หรือ Disney Plus เราสามารถชมรายการที่ชื่นชอบได้เลย โดยเสียค่าใช้จ่ายเพียงเดือนละ 2-300 บาทเท่านั้น ซึ่งถูกกว่ามากเมื่อเทียบกับค่าบริการเคเบิลหรือดาวเทียมที่อาจสูงถึง 1,114-2,170 บาทต่อเดือน ยังไม่รวมค่าโปรโมชั่นต่างๆอีก นอกจากนี้ยังมีทีวีดิจิตอลฟรีทางอากาศอีกด้วย เลือกคุ้มกว่ามากเมื่อเทียบกับเคเบิลแบบเดิม

สรุป:
นั่นคือรายการสิ่งของ 7 อย่างที่ไม่ควรซื้อ เพราะจะทำให้เสียเงินมากเกินความจำเป็นโดยไม่ได้อะไรเลย เป็นการใช้เงินอย่างไม่คุ้มค่า เมื่อลดค่าใช้จ่ายจากสิ่งของเหล่านี้ได้ จะทำให้มีเงินเหลือเก็บออมหรือลงทุนได้มากขึ้น ช่วยให้ก้าวไปสู่ความมั่งคั่งทางการเงินได้เร็วยิ่งขึ้นนั่นเอง คงต้องเป็นนักออมเงินที่ระวังรายจ่ายอย่างจริงจังกันต่อไปครับ