Category: พัฒนาตัวเอง
ถ้าวันนี้ผมรวยพันล้าน ผมจะยังทำสิ่งที่ทำอยู่ทุกวันนี้มั๊ย ก็มานั่งคิดดูก็คิดว่า คงยังทำสิ่งที่ทำอยู่เพราะผมชอบหาความรู้เกี่ยวกับการหาเงินออนไลน์ และ ชอบการแบ่งปันในช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ เรียกได้ว่าผมได้ทำสิ่งที่ชอบและมีความสุขอยู่ครับ ผมเคยฟังโค้ชหนุ่ม The Money Coach เล่าในงานสัมมนาว่า ช่วงแรกที่เขามีอิสระทางการเงิน เขาไม่ต้องทำงานแล้ว ก็เอาเวลาไปเที่ยว ไปทำสิ่งที่ชอบ แต่ทำไปได้ไม่นานก็เริ่มรู้สึกเบื่อ สุดท้าย สรุปก็คือ คนเราต้องการทำอะไรที่ทำให้ตัวเองรู้สึกว่ามีคุณค่า ผมว่าตรงนี้คือ เหตุผลของการที่เราทำอะไรซ้ำๆเดิมๆได้ทุกวันโดยที่ไม่เบื่อ เพราะเราได้ทำสิ่งที่เราได้ให้คุณค่าแก่คนอื่น ผมเองกว่าจะเจออะไรที่ชอบก็ค้นหามานาน ก็อายุ 40 ปีครับ ถึงได้มาเจอว่าเราชอบทำคอนเทนต์ออนไลน์ เพราะมันได้ทั้งรายได้ และ ได้ให้ความรู้คนอื่น ก็มีบางคนดูคอนเทนต์ที่ผมทำแล้วเขาสามารถนำไปสร้างรายได้ๆ ผมก็ดีใจ รู้สึกดีกับตัวเอง ทีนี้ถ้าใครยังไม่เจอว่าเราชอบอะไร สถาณการณ์ตอนนี้น่าจะเหมือนผมสมัยที่ทำงานประจำ คือ เบื่อมาก เบื่องาน เบื่อคน ไม่อยากออกไปทำงานเลย...
4 สิ่งที่ทำแล้วจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จในสิ่งที่เราต้องการในปีนี้ ผมสรุปมาจาก Podcast ของ Jim Kwik ที่ชื่อว่า 4 Ways To Change Your Life in 2023 1. ทำเพิ่ม สิ่งที่ทำอยู่ ตอนนี้ทำอะไรอยู่แล้วอยากทำเพิ่ม เช่น ปกตินั่งสมาธิอยู่แล้ว อยากทำเพิ่มขึ้น ปกติเดินวันละ 20 นาที อยากเพิ่มเวลา การเพิ่มเวลาเพียงเล็กน้อย แต่เราทำสม่ำเสมอ ลองคิดดูว่าถ้าเราทำไปตลอดปี 2023 นี้ การเปลี่ยนแปลงแค่เพียงเล็กน้อย ก็สร้างสะสมกลายเป็นความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้ ส่วนตัวผมเองตอนนี้เปิด Tiktok เพื่อทำ Tiktok Shop Affiliate ปีที่แล้วผมมีเพียงร้านเดียว...
บทความนี้จะมาแนะนำวิธีการสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ เริ่มต้นจาก 0 มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง เคล็ดลับ สรุปง่ายๆคือ “นำสิ่งที่เรารู้ สิ่งที่เราชำนาญ ไปแก้ปัญหาให้คนอื่นได้” แต่ถ้าคนที่ไม่รู้จักตัวเองเลย จะทำอย่างไรดี จะมาแนะนำวิธีค้นหาตัวเองกันครับ 1. รู้จักตัวเองก่อน (Niche) มีอะไรบ้างที่เราเชี่ยวชาญ – สิ่งที่เราทำอยู่ทุกวัน ทำโดยไม่ต้องใช้สมอง ทำไปโดยธรรมชาติ อะไรก็ได้ลองนึกดู อย่าคิดว่าสิ่งที่เราถนัด มันไร้สาระ เขียนมันออกมาครับ อะไรที่เราทำเพื่อความสนุก – งานอดิเรกที่เรามักจะทำในยามว่าง อาจจะยังไม่ได้ถึงกับเก่งแต่มีความชื่นชอบ และทำมันได้ไม่มีเบื่อ เราแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง – ซ่อม, ประกอบ, ปรึกษา, แก้ปัญหา เรื่องอะไรก็ได้ ที่มีคนมักจะมาขอให้เราช่วยเหลือ และเราแก้ปัญหาให้คนเหล่านั้นได้ 2. รู้จักกลุ่มเป้าหมาย ใครที่เราจะไปช่วยเหลือเขาได้บ้าง...
อยากจะมีชีวิตที่ดีขึ้น เราต้องแก้ไขจากข้างในตัวเราเองก่อนนั่นคือ ความคิด เปลี่ยนความคิดจะกลายเป็นนิสัย สิ่งที่เราทำจะเปลี่ยนสภาพแวดล้อม ทุกอย่างจะปรับคุณภาพชีวิตของเราให้ดีขึ้น ผมจึงสรุป 5 นิสัยที่เปลี่ยนแล้ว ชีวิตก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น มีอะไรบ้าง 1. เลิกพูดคำว่า “ทำไม่ได้” อย่าเคยชินที่มักจะปฏิเสธทุกอย่าง ไม่แม่แต่จะคิด จะลองทำ ถ้าแค่คิดยังไม่กล้ารับรองได้ว่าชีวิตไม่ไปไหนแน่นอน ใครที่เคยชินกับคำพูดที่ว่า “ทำไม่ได้” เปลี่ยนเป็น มีวิธีไหนที่จะทำให้เราทำมันสำเร็จ เมื่อมีโอกาสที่จะได้ทำอะไรใหม่ๆ ออกจากความเคยชินเดิมๆ อย่างเพิ่งบอกว่าทำไม่ได้ หยุดคิดนิดนึงก่อน ว่ามันผิดศีลธรรมมั๊ย ทำแล้วสร้างความเดือนร้อนให้ใครมั๊ย ถ้าไม่ นี่ก็อาจจะเป็นโอกาสที่เปลี่ยนชีวิตเราได้ อย่าเพิ่งโพล่งออกไปทันทีว่า ทำไม่ได้ แต่ให้คิดว่า เราจะทำมันได้อย่างไร เราจะทำมันให้สำเร็จได้อย่างไร เราต้องปลุกกำลังใจ เชื่อมันในเรื่องของการตั้งเป้าหมาย ผมเคยดูหนังเรื่อง The Butterfly Effect...
มีคนมักจะถามผู้เขียนอยู่เสมอๆว่าทำงานหลายอย่าง แบ่งเวลาอย่างไร ต้องย้อนไปตอนสมัยทำงานประจำที่ทุกอย่างต้องทำงานตามเวลา เข้า-ออก งานเป็นกะ ทำให้เหมือนมีตารางชีวิตที่ต้องทำตาม แต่เมื่อได้ลาออกจากงานประจำ เพื่อมาทำงานอิสระ ปัญหาคือ ไม่มีเจ้านาย ไม่มีใครมาสั่งให้เราทำอะไร ตอนนั้นตัวเราเองก็จะตระหนักได้ว่า ถ้าเราไม่มีระเบียบ ไม่บริหารเวลาให้ดี ชีวิตเราไม่รอดแน่ วิธีที่ผมเรียงลำดับความสำคัญในการทำงานเป็นแบบนี้ครับ ก่อนจะแบ่งเวลา จัดการเวลา เราต้องกำหนดเป้าหมาย และ แผนงาน การกำหนดว่าเราจะไปไหน และ วิธีการจะไปอย่างไร ทำให้เรามีแผนที่ในใจ เราจะไม่ออกนอกลู่นอกทาง เขียนออกมา ยิ่งชัดเจนยิ่งดี สายตา ความคิดของเราจะพุ่งเป้าเพื่อเดินไปสู่เป้าหมายเท่านั้น 1. อะไรที่สร้างเงินให้เราทันที โฟกัสสิ่งนั้นเป็นสิ่งแรก อะไรที่สามารถสร้างกระแสเงินสดเข้ามาได้ก่อน ให้ความสำคัญมาอันดับแรก เพราะสิ่งนี้จะเหมือนเป็นกระแสเลือกที่ทำให้เราหล่อเลี้ยงชีวิตของเราได้ สำคัญคือ เราต้องสร้างระบบเพื่อให้มันสามารถทำงานได้เอง เพราะไม่อย่างนั้นเราจะกลายเป็นทาสของงาน และ เราจะไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่นเลย...
ในยุคที่โควิด-19 แทบจะมาเปลี่ยนวิถีชีวิตของเราไปจากเดิมสิ้นเชิง ส่งผลกระทบต่อคนทุกคนในสังคม คนที่ทำงานเป็น ฟรีแลนซ์ หรือ ทำอาชีพอิสระ ก็ต้องปรับตัวด้วยเช่นกัน ผู้เขียนเองก็ลาออกจากงานประจำมาได้เกือบสิบปีแล้วและหาเงินออนไลน์มาตลอด ไม่เคยคิดจะกลับไปทำงานประจำอีกเลย สาเหตุที่ยังอยู่รอดและยังสร้างความมั่นคงในอาชีพอิสระนี้ได้ หัวใจหลักคือ การปรับตัว ที่รวดเร็วนั่นเอง บทความนี้จะมาแชร์ว่ามีอะไรบ้าง 1. ประหยัด ประหยัดในที่นี้ไม่ได้ถึงไม่ให้ใช้เงิน แต่ให้ใช้เงินกับสิ่งที่จำเป็น และไม่เสียเงินไปกับสิ่งที่สร้างหนี้ เพราะการเป็นฟรีแลนซ์รายได้จะสูงกว่างานประจำ แต่เนื่องจากมันไม่นอน ดังนั้นควรจะมีเงินเก็บสำรองเอาใว้ใช้ในยามฉุกเฉินด้วยเช่นกัน เพราะคนส่วนใหญ่เวลาที่มีรายได้เข้ามามาก มักจะใช้จ่ายสูงตามรายได้ แต่ไม่ได้คิดไว้ว่าวันหนึ่งเงินจะหมด ดังนั้น ประหยัด ควรรู้ว่าอะไร ควรซื้อไม่ควรซื้อ 2. หาช่องทางทำเงินเพิ่ม อย่าใส่ไข่ไว้ในตระกร้าใบเดียว การหาเงินก็เช่นกัน มีหลายช่องทางย่อมดีกว่าแน่นอน ลองเริ่มต้นจากสิ่งที่เรามี ว่าสามารถต่อยอดอะไรได้บ้าง ส่วนตัวผมเองช่วงแรกรายได้หลักจะมาจากการทำ Affiliate Marketing ต่อมาผมมองหาช่องทางเสริมด้วยการลองขายของออนไลน์...
คุณอาจจะเคยฝันว่า ถ้ามีเงินพันล้านหรือถูดล็อตเตอร์รี่สักหลาย ๆ ใบคุณคงอยากซื้อคฤหาสน์หลังใหญ่ ซื้อแลมโบกินีหรืออาจเปิดธุรกิจเพื่อต่อยอดให้ตัวเอง แน่นอนว่าใคร ๆ ก็อยากเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยและเป็นคนที่ประสบความสำเร็จที่สุด แต่เมื่อกลับมาในโลกแห่งความเป็นจริง คุณคงต้องพยายามทำงานหนักมากขึ้น ทำโอทีเยอะ ๆ หรือหนทางอื่น ๆ เพื่อประสบความสำเร็จเพื่อร่ำรวยขึ้น แต่อย่างไรก็ตามความรวยและความจนไม่ได้วัดกันที่จำนวนเงินเข้าออก แต่มันวัดกันที่ทรัพย์สินที่ครอบครอง คุณอาจเห็นว่ามหาเศรษฐีหลาย ๆ คนที่คุณอาจรู้จักมักมีทรัพย์สินมากมายไม่ว่าจะที่ดิน หุ้นส่วนต่าง ๆ ต่างกันกับคนจนที่พยายามซื้อหนี้สิน เพิ่มค่าใช้จ่ายไม่มีวันจบสิ้น ดังนั้นเรามาดูกันว่า 7 สิ่งที่เศรษฐีพันล้าน เขาไม่ซื้อกันมีอะไรบ้าง รถหรู super car แน่นอนว่ารถหรูซุปเปอร์คาร์คือรถในฝันของหลาย ๆ คน ไม่ว่าด้วยดีไซน์ แรงม้าและคุณสมบัติเฉพาะที่ไม่เหมือนรถบ้านทั่วไป ฟังไม่ผิดแล้วคนที่ร่ำรวยมาก ๆ เขาเลือกที่จะไม่ใช้จ่ายเงินไปกับการซื้อรถหรูเก็บไว้ เพราะว่ารถหรูหนึ่งคัน ไม่ใช่เพียงแค่ค่าใช้จ่ายตู้มเดียวเท่านั้น...
คุณเคยถามตัวเองมั้ยว่าทำไมคุณต้องทำงาน ? เพื่อหาเงิน แน่นอนว่าเงินเป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถซื้อสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับเรา และสามารถซื้อสิ่งของที่อยากได้ แล้วคุณคิดว่าระหว่างเงินและความสุข เราสามารถซื้อความสุขด้วยเงินได้รึเปล่า ? เชื่อว่ามนุษย์เรานั้น เมื่อได้รับค่าตอบแทนหรือเงินที่ดีกว่าความสุขจะเพิ่มขึ้น แต่หากผลกำไรหรือค่าตอบแทนลดลง ก็จะทำให้รู้สึกเสียใจและไม่มีความสุข มีผลวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าอเมริกาทางตอนเหนือ ถึงแม้จะมีรายได้ 75,000 ดอลลาร์ต่อปี ความสุขและเงินไม่สัมพันธ์กันโดยสิ้นเชิง ในความเป็นจริงแล้วกลุ่มคนที่เรียกได้ว่าเงินซื้อความสุขไม่ได้ ส่วนมากมักเป็นคนที่ถูกล็อตเตอร์รี่ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแหละครับว่า การถูกล็อตเตอร์รี่รางวัลที่ 1 ถือว่าเป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็อยากเจอด้วยตัวเอง ทั้งจำนวนเงินมหาศาล และคุณอาจจะมีญาติเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้เลยละครับ หากคุณไม่มีความรู้ในการจัดสรรเงิน คุณอาจจะใช้เงินโดยเปล่าประโยชน์ และจบที่การเป็นหนี้แล้วกลับไปซื้อล็อตเตอร์รี่เหมือนเดิม ซึ่งแน่นอนว่าการเล่นล็อตเตอร์รี่ก็เหมือนการเล่นพนันอย่างหนึ่งละครับ และมียังการทดสอบในระดับองค์กรอีกด้วย โดยทางองค์กรแบ่งเงินเป็นก้อนให้แก่พนักงาน 3 คนเพื่อให้นำเงินไปบริจาคแก่องค์กรหรือมูลนิธิที่ตนต้องการบริจาคให้ ผลปรากฎว่าพนักงานทั้ง 3 คนมีความพอใจและมีความสุขเมื่อได้นำเงินบริจาคให้กับมูลนิธิที่ตัวเองเลือก ซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานนั้นดีขึ้น หากจะพูดง่าย ๆ...
หากคุณกำลังพยามยามลดน้ำหนัก ไม่ว่าด้วยการออกกำลังกายหรือควบคุมอาหาร ซึ่งแน่นอนว่ามันอาจเป็นเรื่องไม่ยากและไม่ง่ายต่อใครหลาย ๆ คน เราสามารถเผาผลาญแคลลอรี่ได้ในหลากหลายวิธี เช่นหากคุณต้องการเผาผลาญ 200 kl คุณสามารถเลือกที่วิ่ง เล่นเซิร์ฟบอร์ดสักชั่วโมง หรือร้องเพลงก็สามารถเผาผลาญพลังงานได้ถึง 200 kl ครับ แน่นอนว่าปัจจุบันนี้เรามีอาหารหลากหลายเมนูที่ถูกรังสรรค์ หรือของหวานที่ใคร ๆ ก็ต้องสยบ แล้วลองนึกดูว่าแคลลอรีทั้งหมดของเมนูอาหารหวานนั้น ให้พลังงานเราเท่าไหร่ ? เช่น ช็อกโกแลตให้พลังงานมากถึง 200 kl คุณจำเป็นต้องวิ่งสักหนึ่งชั่วโมงเพื่อเผาผลาญมัน หรือแม้กระทั่งน้ำอัดลม ที่มีปริมาณน้ำตาลสูงปรี๊ด หากคุณต้องการลดน้ำหนัก และยังคงทานอาหารขยะเหล่านี้อยู่ ผมตอบได้เลยว่ายากครับ แล้วทำไมเราไม่ลองเลือกที่ลดและงดมันแทนละ ? คุมอาหารควบคู่ไปด้วยเพื่อให้เห็นผลได้เร็ว มีผลการวิจัยในปี 2011 ว่าระดับการออกำลังกายของเด็ก ๆ ไม่ใช่ปัจจัยที่กำหนดน้ำหนักของพวกเขา และการวิจัยในช่วงอายุผู้ใหญ่กว่า...
ในแวดวงสังคมของเรามีคนหลากหลายรูปแบบ มีลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันออกไป รวมไปถึงมีนิสัยเก็บตัว (Introvert) และเป็นคนเปิดเผย (Extrovert) หรือแม้กระทั่งอาจจะมีนิสัยทั้งสองอย่างนี้รวมกัน แล้วระหว่างคนที่ชอบเก็บตัวและคนมีนิสัยเปิดเผยสิ่งไหนดีกว่ากัน ? Introvert และ Extrovert นั้นเป็นแนวคิดทางจิตวิทยา สายจิตวิเคราะห์ ทฤษฎีบุคลิกภาพของ “คาร์ จี จุง (Carl G. Jung Theory)” สำหรับคนประเภท Extrovert นั้น เรียกง่ายๆ ว่า พวกขาปาร์ตี้ เฮฮา มนุษยสัมพันธ์ดี เข้าได้กับทุกคน ชอบเข้าสังคม ดูน่าคบหา คนกลุ่มนี้จะเพิ่มพลังงานของตัวเองจากการอยู่กับคนหมู่มากหรือชอบอยู่กับคน ซึ่งตรงกันข้ามกับ Introvert โดยสิ้นเชิง เพราะ Introvert ชื่นชอบและจะเพิ่มพลังงานของตัวเองได้จากการอยู่คนเดียว อยู่เงียบ...